การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีค่าส่วนต่างและ CFD เป็นตราสารที่มีความซับซ้อน และมีความเสี่ยงที่จะได้กำไรและขาดทุนอย่างรวดเร็วสูงจากระบบเลเวอเรจ นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ขาดทุนจากการเทรดด้วย CFD ดังนั้นก่อนลงทุน คุณควรพิจารณาก่อนว่าสามารถรับความเสี่ยง ที่มีโอกาสจะขาดทุนจากลงทุนได้หรือไม่

ดัชนี PMI จาก Markit สหรัฐฯ ในเดือนเมษายนจะชี้ให้เห็นผลกระทบเงินเฟ้อที่ดึงความต้องการในตลาดลงได้จริงหรือ?

คืนนี้ ตลาดลงทุนจะให้ความสำคัญกับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นจาก Markit สหรัฐอเมริกาในเดือนเมษายน เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเดือนมีนาคม เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการเติบโตหลังจากการผ่อนคลายข้อจำกัดมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ความต้องการสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้การผลิตและปริมาณคำสั่งซื้อใหม่ท่และการจ้างงานโดยรวมเพิ่มขึ้น ดังนั้น นักวิเคราะห์หลายคนจึงคาดว่าข้อมูลตัวเลข PMI จะขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่เคยหดตัวลดลงในเดือนมกราคม

ในเดือนเมษายน เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงประสบเกี่ยวกับต้นทุนด้านพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ และราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าประเภทต่าง ๆ ต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน นอกจากนี้ ตลาดลงทุนมักมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น ข้อมูลจากรายงานตัวเลขในช่วงเย็นนี้จึงมีความเกี่ยวข้องกับผลกระทบของระดับเงินเฟ้อ ที่มีต่อ PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนเมษายนของ Markit 

 

สถานการณ์ตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญของภาวะเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อมักจะทราบผลการดำเนินงานของบริษัทล่วงหน้า โดยทั่วไป ตัวเลขของดัชนี PMI ที่ดีคือไม่ควรอยู่ต่ำกว่า 50 จุด หากเกิน 50 จุดจะมีความหมายว่าอุตสาหกรรมขยายตัว และตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 แสดงถึงการลดลงหรือหดตัวของอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น การคาดการณ์ของดัชนี PMI การผลิตเบื้องต้นของสหรัฐฯ ในเดือนเมษายนในปัจจุบันคือ 58.2 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขก่อนหน้าที่ 58.8 เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังคงสะท้อนถึงความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์และการเติบโตของการผลิตอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะยังคงปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

การคาดการณ์ของตลาดลงทุนสำหรับดัชนี PMI ภาคการบริการโดย Markit เบื้องต้นสำหรับเดือนเมษายนคือ 58 จุด ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขของเดือนก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ข้อมูลตัวเลขเดียวกันจากเดือนมีนาคมเคยออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ ตัวเลขการประเมินครั้งสุดท้ายจาก PMI แบบรวมข้อมูลโดย Markit ในเดือนมีนาคมออกมาอยู่ที่ที่ 57.7 จุด ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่คาดไว้ สะท้อนถึงแรงกดดันต่อการผลิตจากต้นทุนที่สูงขึ้น

ในแง่ของตลาดแรงงาน ข้อมูลกระทรวงแรงงานสหรัฐเมื่อวันที่ 1 เมษายนเปิดเผยว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐลดลงเหลือ 3.6% MoM เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมปีนี้ จำนวนงานใหม่ที่ไม่นับภาคเกษตรออกมาอยู่ที่ 431,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้เล็กน้อย ข้อมูลนี้ระบุว่าแรงงานยังตึงตัวและอัตราการเติบโตจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบริการซึ่งมีช่องว่างด้านแรงงานที่สำคัญที่สุด

รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้น 5.6% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากค่าใช้จ่ายที่น่าจะเพิ่มขึ้นต่อไป การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อยังคงน่ากังวลเป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อข้อมูลตัวเลขของเดือนนี้

 

us bureau of labor-1

(อ้างอิง: TRADINGECONOMICS)

 

ดัชนี PMI ภาคการบริการ Markit ต้องเผชิญกับแรงกดดัน

ในเดือนมีนาคม ความต้องการในภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งทำให้คำสั่งซื้อสะสมโดยรวมอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2009 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในเดือนมีนาคมแสดงให้เห็นว่าปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานถูกบรรเทาลงบ้างแล้ว ด้วยเหตุนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ จึงเติบโตในอัตราที่ค่อนข้างดี ถึงกระนั้น กำลังการผลิตในปัจจุบันยังคงมีจำกัด ความไม่สมดุลระหว่างระดับอุปสงค์และอุปทานของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ควบคู่ไปกับราคาที่สูงขึ้นก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ในขณะนี้

 

us labor market

 

ในเดือนมีนาคม ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเป็น 76.8 เกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตัวเลขนี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อให้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ค่าแรง และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจและผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้องเจอกับอัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมที่พุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์สังเกตว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รายปีที่เพิ่มขึ้น 8.5% อาจทำให้เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรง นักลงทุนในตลาดทั่วไปคาดว่าเฟดจะใช้กลยุทธ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น สมมติว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเกิน 0.50% เกิดขึ้นจริง จะส่งให้การหดตัวในดัชนี Markit PMI ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ารุนแรงขึ้น และความสามารถของการผลิตจากซัพพลายเชนจะลดลง นอกจากนี้ ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน การปรับฐานของตลาดเป็นเวลานานจะเพิ่มแรงกดดันต่อการผลิต และแรงงานใหม่ของอุตสาหกรรมบริการ

ความกังวลอีกประการหนึ่งคือผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่อาจจะมีต่อการเติบโตและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ผลกระทบของสงครามหักล้างกับความต้องการสินค้าและบริการที่แข็งแกร่งขึ้เล็กน้อย และการผ่อนคลายข้อจำกัดในมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ดังนั้น นักลงทุนควรให้ความสนใจกับข่าวเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปในแต่ละวันอย่างใกล้ชิด ผลกระทบของสงครามยังคงผลักดันราคาพลังงาน วัตถุดิบ และอาหาร ให้ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่อุปทาน

ข่าวสารล่าสุด
เริ่มเทรดไปด้วยกันวันนี้!
ลองใช้บัญชีเงินสมมุติของเราฟรีเพื่อเรียนรู้การลงทุน เมื่อคุณพร้อมแล้ว ให้เปลี่ยนไปใช้บัญชีจริงและเริ่มเทรดจริง
ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/ar/ to proceed.
ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://atfxgm.eu/en/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/en-au/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/ar/ to proceed.
ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/en-za/ to proceed.
ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for Hong Kong residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, solicitation to buy or sell any investments.

使用限制: 本網站的產品及服務不適合香港居民使用。網站內部的信息和素材不應被視為分銷,要約,買入或賣出任何投資產品。

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://atfxgm.eu/en/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

AT Global Markets (UK) Limited does not offer trading services to retail clients.
If you are a professional client, please visit https://atfxconnect.com