ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำหรือ XAUUSD มีความผันผวนอยู่พอสมควร สินทรัพย์สำรองอันดับหนึ่งได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1820 ดอลลาร์ เพราะการคาดการณ์ของตลาดที่มีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ราคาทองคำก็ได้ดีดตัวขึ้น นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวว่าการที่อเมริกาต้องอยู่ภายใต้สภาวะเงินเฟ้อเช่นนี้ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เมื่อเร็ว ๆ นี้ราคาทองคำได้รับแรงกดดันเนื่องจากการที่ตลาดให้ความสำคัญกับคำพูดของเฟด แต่คำให้การของประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ กับวุฒิสภาเมื่อวานนี้ ทำให้ตลาดลงทุนกลับมีความคาดหวังมากขึ้น และทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นเล็กน้อย
เมื่อเย็นวานนี้ พาวเวลล์ให้การต่อหน้าคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎร ความสำคัญของถ้อยแถลงนั้นอยู่ที่รายงานนโยบายการเงินรายครึ่งปี ซึ่งตลาดคาดว่าจะสามารถนำข้อมูลไปคาดการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตของเฟด คำพูดของเขามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำ
จากคำปราศรัยของเจอโรม พาวเวลล์เมื่อคืนนี้ เป็นที่แน่ชัดว่าเขามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งกับกลยุทธ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ แม้ว่าการกระทำนั้นอาจนำไปสู่ภาวะถดถอย แต่เขาก็ยอมรับว่าถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ถ้อยแถลงนี้แสดงให้เห็นว่าการจะทำให้เครื่องบินเศรษฐกิจลำนี้ลงจอดได้อย่างนุ่มนวลนั้นต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
ก้าวต่อไปของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะเป็นเรื่องที่น่าวิตกสำหรับตลาดเป็นอย่างมาก พาวเวลล์ยังเน้นว่าเฟดมีแผนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับลงมาอยู่ที่กรอบอัตราดอกเบี้ยเดิม ซึ่งไม่เกิน 2% ประธานเฟดยังเน้นย้ำว่าพวกเขาจะพยายามหาหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ามาให้ได้
จากแถลงการณ์ต่อหน้าสภาครั้งนี้ ทำให้เราได้ทราบว่าเฟดมีความพร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสอดคล้องไปกับความคาดหวังของสมาชิกเฟดบางคนที่ต้องการจะให้คงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เท่ากับว่าทองคำมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่อได้อีกหลายครั้งในอนาคต นโยบายการเงินเช่นนี้ของเฟดจะยังคงกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เจมส์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกเฟดกล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าเฟดต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อด้วยสรรพกำลังทั้งหมดที่มี และหากข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเขา เขาจะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมของเฟดในเดือนกรกฎาคมด้วยเช่นกัน
นายนีล คัชคารี ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิสมีความเห็นที่ตรงกัน เขากล่าวว่าตัวเองเคยสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด 75 จุดเบสิสในเดือนมิถุนายนไปแล้ว และอาจสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% อีกครั้งในเดือนกรกฎาคม
ถ้วยแถลงของพวกเขาส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด ที่ก่อนหน้านี้เคยเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะชะลอตัว หากเป็นเช่นนี้ ก็จะทำให้ทองคำกลับเข้าสู่ความเสี่ยงที่จะปรับตัวลดลงอีก ด้วยเหตุนี้ ความคิดของทองคำทั้งตลาดขาขึ้นและลงในปัจจุบันจึงผันผวนอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์บางกลุ่มเชื่อว่าความผันผวนของราคาทองคำจะอยู่ในกรอบราคาระหว่าง 1,800 ถึง 1,870 ดอลลาร์
แม้ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว 75 จุดเบสิส แต่สถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกายังคงเลวร้าย นักลงทุนยังคงหวังว่าตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะลดลงจากตัวเลข 8.6% ในเดือนพฤษภาคม แต่พวกเขาก็เชื่อว่าอาจจะไม่ลงไปต่ำกว่า 8.3% บางคนถึงกับเชื่อว่าตัวเลข CPI ของเดือนมีอถนายนอาจจะสูงกว่า 8.6% ด้วยซ้ำไป
นอกจากนี้ ตลาดไม่ได้หยุดพูดภึงที่มาของอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ครั้งนี้ การวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อปัจจุบันที่เกิดจากฝั่งอุปสงค์เป็นเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น เกือบครึ่งหนึ่งเกิดจากปัญหาซัพพลายเชนฝั่งอุปทาน สมมติว่าด้านอุปทานทำให้เกิดเงินเฟ้อ ในกรณีดังกล่าว นโยบายตึงตัวของธนาคารกลางจะสามารถลดผลผลิตทางเศรษฐกิจลงได้อย่างมาก ตามราคาสินค้าที่ลดราคาลง ซึ่งเพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่หากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชะลอหรือหยุดลง การรอให้อุปทานฟื้นตัวอาจต้องใช้เวลานาน สถานการณ์เงินเฟ้อสูงในปัจจุบันจะดำเนินต่อไป
ดังนั้นแนวโน้มราคาทองคำจึงอาจยังคงผันผวนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงการประชุมอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนหน้า สมมติว่าผู้คนในตลาดกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยมีมากกว่า ฝั่งที่เชื่อว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ในกรณีนั้น อาจมีการรีบาวด์ของโมเมนตัมของราคาทองคำ จากคำพูดของพาวเวลล์ เขายังได้แสดงคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะถดถอยในอนาคต ซึ่งบ่งชี้ว่าความกังวลของตลาดจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตัวเลขของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ในเวลาเช่นนี้ นักลงทุนทองคำต้องให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพื่อให้สามารถรับมือกับเงินเฟ้อได้ทันท่วงที
