หลังจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ราคาบิทคอยน์ก็ได้ปรับตัวลดลงมาวิ่งอยู่ต่ำกว่า $19,000 นั่นจึงทำให้นักลงทุนเป็นกังวลว่าอาจได้เห็นการปรับตัวลดลงของราคาบิทคอยน์อีกครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน เพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงยืนยันที่จะให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อก่อนปัญหาเรื่องอื่นๆ
กราฟบิทคอยน์รายวัน
บิทคอยน์กำลังวิ่งเข้าใกล้จุดต่ำสุดในเดือนมิถุนายนและถ้าปรับตัวลดลงต่ำมากกว่านี้ อาจส่งผลร้ายต่อราคาบิทคอยน์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงหลังจากที่เฟดประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครึ่ง ซึ่งทำให้รวมแล้วเฟดขึ้นมามีกรอบอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.00–3.25% นอกจากนี้ เฟดได้ให้ข้อมูลคาดการณ์นโยบายการเงินในอนาคต ซึ่งตัวเลขที่เฟดได้มาในปี 2023 ที่ 4.6% ถือว่าสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 3.8% จากข้อมูลที่ได้รับมา ทำให้นักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน
สำหรับบิทคอยน์ แนวโน้มขาลงเกิดขึ้นหลังจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเพราะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวสูงขึ้นในฐานะสินทรัพย์สำรองปลอดภัย
จริงอยู่ว่าระบบการเงินกระจายอำนาจ (DeFi) เคยดึงดูดนักลงทุนในปีที่แล้ว เพราะสกุลเงินดิจิทัลเเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่การล่มสลายของโครงการ Terra และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ทำให้ผู้คนลดความสนใจในการลงทุนกับสินทรัพย์ดิจิทัลลง
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวว่าธนาคารกลางฯ ต้องการรักษาเสถียรภาพของราคาและลดแรงกดดันที่เกิดขึ้นสินค้าต่างๆ ธนาคารกลางยังคงมองว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ เจอโรม พาวเวลล์กล่าวว่าธนาคารกลางจะต้องเห็นหลักฐานที่แท้จริงว่าเงินเฟ้อได้กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว ซึ่งข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดยังคงสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ นอกจากนี้ นายพาวเวลล์ยังแถลงในระหว่างการถามตอบด้วยว่าก่อนจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย เฟดจะต้องเห็นอัตราเงินเฟ้อกลับมาที่ 2% ก่อน
Brian Coulton หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Fitch Ratings ให้ความเห็นว่า “จากการคาดการณ์ของเรา เชื่อได้ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมเป็น 4% ในเดือนธันวาคม นี่จะเป็นหนึ่งในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดที่เฟดเคยทำมานับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลก”
จากคำแถลงของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ พวกเขาให้ความเห็นว่า
“ตัวชี้วัดล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายและการผลิตมีการเติบโตเพียงเล็กน้อย การจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และอัตราการว่างงานยังคงต่ำ”