อิทธิพลของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดฟอเร็กซ์ลดลงเมื่อวานนี้อย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเดือนกรกฎาคมออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ตัวเลขที่ออกมาลงเหลือ 8.5% YoY เทียบกับตัวเลขในเดือนมิถุนายนที่ 9.1%
การลดลงของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ จากรายงาน CPI เมื่อวานนี้ ได้ทำให้นักลงทุนลดคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนกันยายน ความคาดหวังที่มีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกมากป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้นักลงทุนเข้าถือสกุลเงินดอลลาร์ เพราะการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวจะทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดจุดยืนที่มีต่ออัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ตัวเลข CPI ที่ออกมาทำให้เกิดการเทขายดอลลาร์สหรัฐจำนวนมาก ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 105 เมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกในรอบสี่สัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
การอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลลาร์ทำให้คู่สกุลเงินอื่นที่จับคู่กับดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น ยกตัวอย่างเช่น EURUSD, GBPUSD, AUDUSD, NZDUSD เป็นต้น คู่สกุลเงินเหล่านี้สามารถขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ในตลาดได้เมื่อวานนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน ทองคำสามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 1806 ดอลลาร์ และโลหะเงินก็เพิ่มขึ้นเป็น $20.790
ปัจจัยดังกล่าวยังกระตุ้นให้เกิดการลงทุนใน ตลาดสกุลเงินดิจิทัลและตลาดหุ้น ดังนั้นสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ เช่น Bitcoin, Ethereum, Cardano, Polkadot, Binance Coin, Uniswap, Dogecoin, Link, Litecoin ล้วนแต่ปรับตัวขึ้น หุ้นเยอรมัน สหภาพยุโรป ฮ่องกง และสหรัฐฯ จำนวนมากมีเงินทุนไหลเข้าจำนวนมากเมื่อวานนี้
การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สินทรัพย์ที่มูลค่าติดกับดอลลาร์กลับมาปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง นี่คือสาเหตุว่าทำไมถึงได้เห็นเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเหล่านี้มากขึ้น
ทำความเข้าใจผลกระทบของตัวเลข CPI ที่มีผลต่อดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจสำคัญที่วัดราคาสินค้าและบริการที่เสนอให้กับผู้บริโภค ตัวเลข CPI ที่ออกมามีความสำคัญในการวัดอัตราเงินเฟ้อของประเทศ ซึ่ง CPI ของสหรัฐฯ มีอิทธิพลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมากพอๆ กับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น จนทำให้เฟดใช้มาตรการที่รุนแรงเพื่อลดเงินเฟ้อ
ตัวเลข CPI ที่สูงขึ้นคือการเพิ่มโอกาสที่เฟดจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรง การทำนโยบายการเงินเช่นนี้จะทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และปรับตัวสูงขึ้น นั่นคือสาเหตุว่าทำไมก่อนการรายงานตัวเลข CPI เราจึงมักเห็นดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ค่อนข้างแตกต่างไปจากเดิมเมื่อวันพุธที่แล้ว เมื่อตัวเลขจากกรมสถิติแรงงานของสหรัฐฯ ประเมินให้ดัชนี CPI ของประเทศออกมาอยู่ที่ 8.5% ต่ำกว่าตัวเลขก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายนที่ 9.1% อย่างมาก
เมื่อรายงานตัวเลข CPI เมื่อวานนี้ออกมาลดลง นั่นจึงทำให้นักลงทุนฝั่งที่ถือหรือเชียร์ดอลลาร์สหรัฐท้อใจ เพราะเท่ากับว่าเป็นการลดโอกาสที่ขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในการประชุมครั้งถัดไปของเฟดลงอย่างมาก นั่นจึงทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดฟอเร็กซ์เมื่อวานนี้จึงถูกเทขาย
ในทางกลับกัน ตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นจะทำให้เกิดการซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐในระยะสั้นเป็นจำนวนมาก เพราะตลาดจะคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในการประชุมของเฟดครั้งถัดไป เพื่อลดเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงลงมา
แต่ถ้าตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ลดลง มันจะนำไปสู่การเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐในระยะสั้นจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยลง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้อธิบายถึงสาเหตุของการเทขายดอลลาร์สหรัฐ