การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีค่าส่วนต่างและ CFD เป็นตราสารที่มีความซับซ้อน และมีความเสี่ยงที่จะได้กำไรและขาดทุนอย่างรวดเร็วสูงจากระบบเลเวอเรจ นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ขาดทุนจากการเทรดด้วย CFD ดังนั้นก่อนลงทุน คุณควรพิจารณาก่อนว่าสามารถรับความเสี่ยง ที่มีโอกาสจะขาดทุนจากลงทุนได้หรือไม่

อีกไม่นานเราอาจได้เห็นเฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรง

เชื่อว่านักลงทุนทุกคนในช่วงนี้คงสังเกตได้ว่าหุ้นสหรัฐมีการขึ้นลงอย่างผันผวน ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคมและ CPI พื้นฐานนั้นออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์คาดไว้ จนทำให้ตลาดกลับมาเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 จุดเบสิสในเดือนกันยายน หลังจากตัวเลขดังกล่าวเผยแพร่ออกมา ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ยักษ์ใหญ่ 3 อันดับแรกก็ได้ปรับตัวลดลง นำโดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 3.9% ดัชนี Nasdaq ลดลงประมาณ 5.2% และดัชนี S&P 500 ลดลง 4.3%

นักลงทุนในตลาดตอนนี้เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 75 จุดเบสิสในการประชุมเดือนกันยายน แต่สิ่งที่ทำให้ตลาดไม่สบายใจคือความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 100 จุดเบสิส หากท้่ายที่สุดแล้ว เฟดเลือกที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจังเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ หุ้นสหรัฐฯ อาจร่วงลงอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน ข่าวเศรษฐกิจมหภาคก็มีส่วนกำหนดแนวโน้มของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ข้อมูลตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของเดือนสิงหาคม YoY ในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้น 8.7% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 8.8% ซึ่งสะท้อนว่าราคาพลังงานที่ลดลงทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงเล็กน้อย

sp500 chart

นักลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าหุ้นสหรัฐฯ ที่สูง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น อัตราส่วนราคาต่อกำไรจากราคาดัชนี S&P 500 ปัจจุบันคือ 17 เท่า ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่ต่ำเลย นอกจากนี้ หากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต บริษัทส่วนใหญ่จะลดความคาดหวังด้านผลกำไรลง ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดังนั้น ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจึงมีความสำคัญสำหรับนักลงทุนในการให้ความสำคัญ และต้องคอยติดตาม เราเชื่อว่าตลาดหุ้น ในเดือนกันยายนจะเริ่มเห็นผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างแข็งกร้าว เว้นแต่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเกิน 75 จุดเบสิส ซึ่งตลาดจะไม่ตกใจเท่าไหร่เนื่องจากเป็นตัวเลขที่คาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว 

เมื่อพิจารณาดูหุ้นเป็นกลุ่มๆ จะพบว่าหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่ได้สะสมกำไรอย่างมากมาตั้งแต่ต้นปีนี้ ก็ยังมีโอกาสที่จะได้กำไรมากขึ้นเพราะอุปสงค์น้ำมันสูงสุดในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ความเสี่ยงจากการขาดแคลนเชื้อเพลิงและราคาไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานยังมีที่ว่างที่จะปรับตัวขึ้นขึ้นได้ต่อ แม้ว่าราคาน้ำมันในปัจจุบันจะค่อนข้างสูงอยู่แล้วก็ตาม เป็นความจริงที่ว่าราคาน้ำมันร่วงลงอย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ แต่บริษัทพลังงานชั้นนำหลายแห่งเลือกที่จะส่งต่อผลกำไรที่สูงขึ้นให้กับนักลงทุนผ่านการจ่ายเงินปันผลพิเศษและการซื้อหุ้นคืน นอกจากนี้ในภาพรวมแล้ว อัตราส่วนราคาต่อกำไรยังต่ำกว่าอัตราส่วน P/E ของตลาด ดังนั้นจึงยังมีโอกาสที่หุ้นกลุ่มพลังงานจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้

หุ้นในกลุ่มการเงินยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในหมู่นักลงทุน เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของสินเชื่อ ซึ่งช่วยให้หุ้นการเงินสามารถเพิ่มผลกำไรได้ โดยปกติแล้ว หุ้นกลุ่มการเงินเป็นผู้รับผลประโยชน์มากที่สุดของจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถึงกระนั้น นักลงทุนยังต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับผลกระทบด้านลบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอุตสาหกรรมการเงิน โดยเฉพาะธนาคารเมื่อการลงทุนมีแนวโน้มชะลอตัว ล่าสุด Goldman Sachs ได้แจ้งข่าวว่าจะเลิกจ้างพนักงานประมาณ 100 คน เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จำนวนการเสนอขายหุ้น IPO จึงลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้รายได้ของโกลด์แมน แซคส์ลดลงอย่างรวดเร็ว แนวโน้มอาจยังคงลากผลกำไรโดยรวมของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้ปรับตัวลง

ทั้งดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน ตลาดคาดว่าข้อมูลเงินเฟ้อจะสูงขึ้น แต่ตัวเลขที่ออกมาก็สูงกว่าคาดการณ์ เป็นผลให้จะมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของแนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐฯในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในตลาดบางคนเชื่อว่าหากราคาพลังงานยังคงลดลงต่อไปในอนาคต แรงกดดันเงินเฟ้อจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งจะหนุนหุ้นสหรัฐฯ ให้ปรับตัวสูงขึ้น

นักลงทุนไม่สามารถเพิกเฉยต่อปัจจัยทางเศรษฐกิจในเชิงลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากความกลัวว่าสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยพร้อมกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นความท้าทายในตลาดหุ้นอย่างมาก ตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในระดับสูงเพราะการใช้พลังงานในฤดูหนาวที่จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หากตัวเลข CPI ไม่ลดลงตามที่ตลาดคาดการณ์ เฟดอาจคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไปนานขึ้น ซึ่งไม่ใช่ข่าวดีสำหรับตลาดหุ้น

ข่าวสารล่าสุด
เริ่มเทรดไปด้วยกันวันนี้!
ลองใช้บัญชีเงินสมมุติของเราฟรีเพื่อเรียนรู้การลงทุน เมื่อคุณพร้อมแล้ว ให้เปลี่ยนไปใช้บัญชีจริงและเริ่มเทรดจริง
ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website https://www.atfx.com/en-ae/ are not suitable
in your country. Such information and materials should not be regarded as or
constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments.
Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

使用限制

本网站的产品及服务不适合英国居民。网站内部的信息和素材不应被视为分销,要约,买入或卖出任何投资产品。请继续访问 https://www.atfx.com/en/

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for Hong Kong residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, solicitation to buy or sell any investments.

使用限制: 本網站的產品及服務不適合香港居民使用。網站內部的信息和素材不應被視為分銷,要約,買入或賣出任何投資產品。

ATFX

Restrictions on Use

AT Global Markets (UK) Limited does not offer trading services to retail clients.
If you are a professional client, please visit https://www.atfxconnect.com/