ทุกสายตาจับจ้องไปที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เมื่อใกล้ถึงการประชุมสำคัญของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 16 – 17 กันยายน 2025 หลังจากหลายเดือนของการคาดการณ์และถกเถียง ตลาดกำลังรอว่าจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีที่คาดการณ์กันมายาวนานหรือไม่
การตัดสินใจนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องนโยบายภายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบทั่วโลก ซึ่งกำหนดทิศทางของสกุลเงิน หุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ สำหรับนักลงทุน การเข้าใจผลกระทบจากการตัดสินใจนี้มีความสำคัญ เนื่องจากผลลัพธ์จะส่งผลต่อกลยุทธ์การลงทุนผ่านราคาสินทรัพย์ ความเชื่อมั่นของตลาด และความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐ ด้วยความสำคัญสูง การประชุมครั้งนี้จึงเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่นักเทรดทุกคนจับตามองอย่างใกล้ชิด
สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในการประชุม FOMC เดือนกันยายน 2025
แนวโน้มตลาดเอียงไปทางการลดอัตราดอกเบี้ย
ตลาดคาดการณ์ไปในทิศทางการลดอัตราดอกเบี้ย โดยมีปัจจัยสำคัญสองประการ:
1. ตลาดแรงงานชะลอตัว:
รายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) เดือนกรกฎาคมชะลอตัวอย่างชัดเจน โดยมีการจ้างงานใหม่เพียง 73,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 110,000 ตำแหน่ง อย่างมีนัยสำคัญ ตัวเลขของเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนถูกปรับลดลงอย่างมาก จาก 144,000 และ 147,000 เหลือเพียง 19,000 และ 14,000 รวมปรับลดทั้งหมด 258,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.2% ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับความชะลอตัวของเศรษฐกิจ
2. เงินเฟ้อเริ่มปรับลดลง::
รายงาน CPI เดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ต่อเดือน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อรายปีลดลงเหลือ 2.7% เข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของ Fed ความก้าวหน้านี้ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายมีพื้นที่มากขึ้นในการพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยโดยไม่กระทบต่อเป้าหมายเงินเฟ้อของพวกเขา
ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2025 เครื่องมือ CME FedWatch ระบุว่ามีโอกาส 87.3% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดเบสิส ขณะที่มีโอกาส 12.7% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ความคาดการณ์เหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีข้อมูลใหม่ปรากฏออกมา
ลดดอกเบี้ย vs. คงดอกเบี้ย: ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อตลาดฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ และหุ้น
การตัดสินใจของเฟดจะส่งผลต่อสินทรัพย์หลักหลายประเภทชัดเจนและทันที นี่คือสิ่งที่นักเทรดควรจับตามอง:
1. ตลาดฟอเร็กซ์
หากลดดอกเบี้ย: ดอลลาร์สหรัฐอาจอ่อนค่าลงเนื่องจากความแตกต่างของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัว ส่งผลดีต่อสกุลเงินหลักอื่น ๆ เช่น ยูโร (EUR), ปอนด์ (GBP) และเยน (JPY)
หากคงดอกเบี้ย: ดอลลาร์สหรัฐอาจฟื้นตัว เนื่องจากนักลงทุนประเมินเส้นเวลาในการผ่อนคลายนโยบายของเฟดใหม่
แนวทางที่อาจเกิดขึ้นของคู่สกุลเงิน EUR/USD ภายใต้การตัดสินใจของเฟด:
2. ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
หากลดดอกเบี้ย: ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงอาจสนับสนุนสินทรัพย์ที่ราคาเป็นดอลลาร์ เช่น ทองคำและเงิน ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์ที่ไวต่อการเติบโต เช่น น้ำมันและทองแดง ก็อาจได้รับประโยชน์จากความคาดหวังความต้องการที่ดีขึ้น
หากคงดอกเบี้ย: ราคาทองคำอาจเผชิญแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่า ขณะที่โลหะอุตสาหกรรมอาจเสียแรงหนุนจากความคาดหวังการเติบโตที่ลดลง อย่างไรก็ตาม น้ำมันได้รับอิทธิพลมากกว่าจากปัจจัยด้านอุปทาน เช่น การตัดสินใจของ OPEC+ และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ดังนั้นนโยบาย Fed อาจมีผลกระทบน้อยกว่า
แนวทางที่อาจเกิดขึ้นของ XAU/USD ภายใต้การตัดสินใจของเฟด:
3. ตลาดหุ้น
หากลดดอกเบี้ย: ต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงอาจกระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวของตลาดหุ้น เพิ่มแนวโน้มกำไรของบริษัท และสนับสนุนความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยง
หากคงดอกเบี้ย: มีแนวโน้มปรับฐาน เนื่องจากตลาดปรับตัวลดการเก็งกำไร และความคาดหวังต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
แนวทางที่อาจเกิดขึ้นของ NAS100 ภายใต้การตัดสินใจของ Fed:
วิธีที่นักลงทุนจะสามารถรักษาความมั่นคงท่ามกลางความเคลื่อนไหวของตลาด
แม้ว่าการตัดสินใจของเฟดอาจคาดเดาได้ยาก แต่เทรดเดอร์สามารถเตรียมตัวได้โดยการคาดการณ์และบริหารความผันผวนที่เกิดขึ้นหลังประกาศ กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่:
1. ติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด
ติดตามการประกาศ สุนทรพจน์ และข้อมูลสำคัญ เช่น ตัวเลขการจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ให้สังเกตบริบทว่าเฟดส่งสัญญาณเป็นเข้มงวด หรือผ่อนคลายนโยบายการเงิน และสิ่งนี้สอดคล้องกับความคาดหวังของตลาดอย่างไร
2. บริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
ช่วงใกล้การประกาศสำคัญจะมีความผันผวนสูงและราคาสามารถเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว การกำหนดขนาดออเดอร์อย่างเหมาะสมและการใช้คำสั่ง stop-loss ก็เป็นสิ่งที่แนะนำ
3. มองหาโอกาส
การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินมักสร้างแนวโน้มในสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กัน การปรับตัวเชิงผ่อนคลายอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าและสนับสนุนทองคำและหุ้น ขณะที่ท่าทีเชิงเข้มงวดอาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันสินทรัพย์เสี่ยง การสังเกตความสัมพันธ์เหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจอย่างมั่นใจมากขึ้น
วิธีที่ ATFX ช่วยให้นักลงทุนมีศักยภาพ
ATFX มอบเครื่องมือ ข้อมูลเชิงลึก และการสนับสนุนที่จำเป็นให้กับลูกค้า เพื่อให้สามารถนำทางในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยความมั่นใจ
1. การวิเคราะห์ตลาดโดยผู้เชี่ยวชาญ
เข้าถึงการอัปเดตและข้อมูลเชิงลึกอย่างทันเวลา จากผู้เชี่ยวชาญของ ATFX และทีมวิเคราะห์เฉพาะด้าน
2. แพลตฟอร์มการเทรดขั้นสูง
เทรดบนแพลตฟอร์มใช้งานง่าย พร้อมเครื่องมือกราฟมืออาชีพ ข่าวสารเรียลไทม์ และความเร็วในการส่งออเดอร์สูง
3. คุณสมบัติการบริหารความเสี่ยง
ใช้คำสั่ง stop-loss เพื่อการป้องกันยอดคงเหลือติดลบ และใช้ทรัพยากรการเรียนรู้ เพื่อช่วยให้นักเทรดตัดสินใจอย่างมีข้อมูล
ตลาดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และการตัดสินใจของ Fed ยังไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยหรือคงอัตรา การเตรียมตัวอย่างดีและติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดคือกุญแจสำคัญ รักษาความสงบและเทรดด้วยความมั่นใจกับ ATFX