ในเซสชั่นเอเชียในวันนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ได้กลับมาเหนือ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่วิ่งอยู่ต่ำกว่าระดับราคานี้มานานกว่าสองสัปดาห์ ราคาน้ำมันที่ร่วงลงก่อนหน้านี้เป็นผลมาจากการผลิตและอุปทานน้ำมันที่กลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้น ตามคำเรียกร้องให้ OPEC+ เพิ่มการผลิตในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เพื่อควบคุมปัญหาการขาดแคลนน้ำมันอันเนื่องมาจากการปิดท่อส่งน้ำมันของรัสเซีย เพื่อเป็นการพยุงเสถียรภาพตลาดน้ำมัน OPEC จึงแก้ไขด้วยการเพิ่มการผลิตน้ำมัน ซึ่งช่วยให้ราคาน้ำมันทั่วโลกปรับตัวลดลง นั่นจึงทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ลงมาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่ $85.45 ต่อบาร์เรลเมื่อต้นเดือนสิงหาคม
ในสภาวะที่ซัพพลายน้ำมันกำลังเพิ่มขุ้น ซาอุดิอาระเบียได้ออกมาเตือนว่าระดับซัพพลายที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันไม่ได้เป็นไปตามปัจจัยพื้นฐานใดๆ ทั้งนั้น เพื่อลดความเสี่ยง โอเปกจึงจำเป็นต้องลดการผลิตน้ำมันเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันเอาไว้
เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันซาอุดีอาระเบียกล่าวถึงสถานการณ์ในตอนนี้ว่า:
“ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สไม่ได้สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานพื้นฐานของอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งอาจเป็นหน้าที่ของกลุ่มในการลดกำลังการผลิตในเดือนหน้า เพื่อให้การผลิตน้ำมันเป็นไปตามเป้าหมาย”
ดังนั้น เขาจึงเห็นว่าโอเปกและพันธมิตร (OPEC+) มีความจำเป็นต้องลดระดับการผลิตน้ำมันในปัจจุบันลง เมื่อปัจจัยพื้นฐานไม่สอดคล้องกับซัพลลายน้ำมัน หากไม่ทำแล้ว โอเปกมองว่ากลไกตลาดและราคาน้ำมันอาจจะพังลงมาได้
“ความผันผวนของน้ำมันที่โลกเห็นเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นอันตราย ซึ่งจะขัดขวางกลไกตลาดพื้นฐานและบ่อนทำลายเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน ด้วยเหตุนี้ กลุ่มโอเปกจึงจำเป็นที่จะต้องเข้ามาแก้ปัญหา” – เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันซาอุดีอาระเบีย กล่าวเพิ่มเติม
ข้อพิจารณาที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบียกล่าวถึงก็คือทำไมโอเปกต้องลดระดับอุปทานน้ำมัน เหตุผลนั้นก็คือข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านในปัจจุบัน ซึ่งตามที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ข้อตกลงดังกล่าวใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว จากความต้องการการผลิตน้ำมันมากขึ้น
รัฐมนตรีน้ำมันกล่าวว่าเมื่อข้อตกลงบรรลุแล้ว สัญญานิวเคลียร์ฉบับปัจจุบันสามารถคืนสถานภาพการผลิตน้ำมันของอิหร่าน จากแต่ก่อนที่เคนถูกลงโทษ การเพิ่มระดับอุปทานน้ำมันในตลาด อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
การที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้เรียกร้องให้โอเปกลดซัพพลายน้ำมันได้ทำให้ผู้ซื้อจำนวนมากหวังว่าจะเห็นราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และกลับสู่จุดสูงสุดครั้งก่อนอีกครั้ง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ราคาน้ำมันได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในวันนี้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ขึ้นไปอยู่ที่ 91.22 ดอลลาร์และเบรนต์ขึ้นไปอยู่ที่ 96.78 ดอลลาร์ แนวโน้มขาขึ้นที่กลับมา ทำให้นักลงทุนหวังว่าจะได้กำไรมากขึ้น
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่ากลุ่ม OPEC มีแนวโน้มที่จะตอบรับคำขอลดอุปทานน้ำมันเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันและหลีกเลี่ยงปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำในอนาคต
ความกังวลที่เพิ่มขึ้นของภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกทำให้โอเปกต้องลดซัพพลายน้ำมันอย่างเร่งด่วน
ความเคลื่อนไหวในตลาดน้ำมันฟิวเจอร์สส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกลุ่มโอเปก ว่าจะลดหรือเพิ่มซัพพลายน้ำมันในอนาคตหรือไม่
คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และ WTI
ในเซสชั่นเอเชียวันนี้ WTI ไม่สามารถขึ้นยืนเหนือแนวต้าน $91.19 ต่อบาร์เรล หากต้องการไปต่อ ขาขึ้นต้องสามารถยืนเหนือระดับราคานี้ให้ได้ การทะลุแนวต้านอาจทำให้เกิดแรงซื้อมากขึ้น และดันให้ราคาขึ้นไปที่แนวต้านถัดไป $94.10 ต่อบาร์เรล
ในทางกลับกัน หาก WTI ไม่สามารถยืนเหนือระดับแนวรับรายวันที่ $90.38 ต่อบาร์เรลได้ เราอาจคาดว่าจะมีการลงไปทดสอบแนวรับที่ต่ำกว่าอีกครั้งที่ $89.40 ต่อบาร์เรล หากหลุดแนวรับนี้ลงไป เรามีโอกาสได้เห็นการลงไปทดสอบจุดต่ำสุดก่อนหน้านี้ที่ $86.17 ต่อบาร์เรล
ในทำนองเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์กำลังทดสอบแนวต้านอันแข็งแกร่งที่ $96.74 บาร์เรล ก่อนจะถูกผลักลงไปที่ $96.34 ต่อบาร์เรล ถึงกระนั้นก็ยังมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบ $98.59 ต่อบาร์เรลอยู่
อย่างไรก็ตาม หากเบรนท์ไม่สามารถยืนเหนือแนวรับรายวันที่ $96.01 ต่อบาร์เรลได้มีโอกาสที่เราจะได้เห็นการลงไปทดสอบแนวรับที่ $95.10 ต่อบาร์เรล หากหลุดลงไป มีโอกาสที่ขาลงจะข็งแกร่งขึ้น และราคาจะมุ่งหน้าลงทดสอบจุดต่ำสุดก่อนหน้านี้ที่ $92.04 ต่อบาร์เรล