คาดว่าธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) จะประกาศแผนการที่จะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรอย่างกว้างขวาง และหารือเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในวันพุธ ซึ่งส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินที่สำคัญในรอบทศวรรษ
ตามที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ บอกเป็นนัยถึงความเป็นไปได้ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนกันยายน การประชุมสองวันของ BOJ จะสรุปด้วยการตัดสินใจลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลรายเดือนลงครึ่งหนึ่งภายใน 18 ถึง 24 เดือน คณะกรรมการจะอภิปรายในประเด็นการเพิ่มเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนเป็น 0.25% จาก 0-0.1% ซึ่งอาจถึงระดับที่ไม่เคยพบเห็นมาตั้งแต่ปี 2008
รายงานจาก NHK และหนังสือพิมพ์ Nikkei ระบุว่า BOJ กำลังพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยผลักดันให้เงินเยนไปอยู่ที่ 152.65 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันพุธ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 2 ปีพุ่งขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้าที่โตเกียว
“การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันนี้จะทำให้เห็นการเพิ่มขึ้นเป็น 1% ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2025” นาโอยะ ฮาเซกาวะ หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านพันธบัตรของ Okasan Securities กล่าว เขาเน้นย้ำถึงโอกาสการเปลี่ยนแปลงปสู่สภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยเป็นบวก
ในขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์มากกว่าสามในสี่จากการสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันเอาไว้ แต่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการปรับขึ้นเงินเดือนอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นได้บั่นทอนภาคการบริโภค ส่งผลให้เศรษฐกิจหดตัวในไตรมาสที่ 1
ข้อมูลวันพุธแสดงให้เห็นว่าผลผลิตจากโรงงานในเดือนมิถุนายนลดลง 3.6% แม้ว่าการผลิตในอนาคตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์
ผู้ว่าการ BoJ นายคาซูโอะ อูเอดะ ระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมนั้นเป็นไปได้ หากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นช่วยคงอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2% BOJ ตั้งเป้าหมายที่จะรักษาสมดุลของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นระหว่าง 0.5% ถึง 1.5% โดยไม่ขัดขวางการเติบโต การตัดสินใจของ BOJ จะเกิดขึ้นก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม แต่จะให้คำใบ้เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินเยนที่อ่อนค่าได้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นจากระดับใกล้ศูนย์