นักลงทุนในตลาดมีความผิดหวังมากพอสมควรหลังจากได้ทราบท่าทีของเฟดตั้งแต่ต้นปีนี้เลยว่าพวกเขายังไม่คิดที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ พร้อมกับกล่าวว่าเฟดยังมีภารกิจอีกหลายอย่างที่ต้องทำเพื่อดึงเงินเฟ้อให้กลับลงมา ความผิดหวังดังกล่าวสะท้อนออกมาเป็นการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
กราฟ US30 รายวัน
ดัชนีดาวโจนส์ได้เจอกับแนวต้านก่อนที่จะ
ขึ้นไปถึง 35,000 จุด ซึ่งราคาอาจปรับตัวลดลงเลยจากระดับราคาบริเวณนี้
ตลาดหุ้นและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงหลังจากรายงานการตัวเลขจ้างงานที่ดีเกินคาด นี่คือการตอกย้ำถึงความยืดหยุ่นของตลาดแรงงานที่มีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงจากธนาคารกลางสหรัฐฯ
การจ้างงานภาคเอกชนในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 235,000 คน ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตามข้อมูลของ ADP นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 150,000 คน แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงตึงตัวแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวก็ตาม จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมลดลงเหลือ 204,000 คนจาก 223,000 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน
เจมส์ บลูราร์ด (James Bullard) ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยังขึ้นต่อได้อีก ซึ่งเขาคาดว่าจะถึง “จุดสูงสุด” ภายในปี 2023
ในการประชุมเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ผู้กำหนดนโยบายของเฟดกล่าวว่า “จะต้องมีการรักษาจุดยืนของนโยบายการขึ้นดอกเบี้ย” จนกว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะ “ให้ความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในเส้นทางที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และจะลงมาจนถึง 2% ซึ่งน่าจะใช้เวลาสักระยะหนึ่ง”
หลังจากขยับขึ้สร้างจุดสูงสุดในวันที่ 20 ธันวาคม ดัชนี US30 มีปรับตัวลดลงจากระดับราคาปัจจุบัน ในวันพฤหัสบดีนี้จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา โดยตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนธันวาคมคาดว่าจะลดลงจาก 6.0% เป็น 5.7% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะลดลงจาก 7.1% เป็น 6.5% แต่มีโอกาสที่จะไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเช่นนั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ดาวโจนส์อาจปรับฐาน