ช่วงเวลาแห่งการรายงานผลประกอบการได้วนมาถึงอีกครั้ง และในวันศุกร์นี้ทุกสายตาก็ให้ความสนใจกับการรายงานผลประกอบการของธนาคารยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาอย่างเช่นการรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ของเจพี มอร์แกน
กราฟ JPM รายวัน
หุ้น JP Morgan ดีดตัวขึ้นอย่างมั่นคงตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่ธนาคาก่อนที่ดัชนีดาวโจนส์จะพักฐานในเดือนธันวาคม แต่การตีกลับอีกครั้งได้สร้างแนวรับและแนวต้านที่ชัดเจนที่ $138.66 หากผลประกอบการของเจพีฯ วันนี้น่าผิดหวัง อาจมีขาลงที่มีเป้าหมายแรกอยู่ ณ $128
JPMorgan สามารถรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ สังเกตจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่มีรายรับเพิ่มขึ้น 10% YoY เจพีฯ สามารถใช้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น นำไปสู่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 17.5 พันล้านดอลลาร์ ในรายงานผลประกอบการครั้งนั้น พวกเขาเชื่อว่าไตรมาสที่ 4 จะมีกำไรอยู่ที่ 19 พันล้านดอลลาร์ เจพีฯ คาดการณ์ว่าจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีก นักวิเคราะห์มีเป้าหมายราคาหุ้นเฉลี่ยที่ $143
ในช่วงสามเดือนที่นับจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม นักวิเคราะห์คาดว่าเจพีฯ จะมีรายได้ 3.12 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากรายรับ 34.3 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมีรายได้อยู่ที่ 3.33 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากรายได้ 30.35 พันล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งปีของเจพีฯ คาดว่าจะลดลง 24% จากปีต่อปีเป็น 11.66 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในขณะที่รายรับทั้งปีที่ 130.46 พันล้านดอลลาร์จะเพิ่มขึ้น 4.1% ในปีนี้
การวิเคราะห์จากธนาคารเพื่อการลงทุน JP Morgan คาดการณ์ว่า 85% ของราคาหุ้นจะขยับสูงขึ้นอย่างน้อย 1.5% หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่า 6.6% พวกเขายังเห็นโอกาส 15% ที่จะขยับลง 2.5-3% หากตัวเลขเงินเฟ้อเกิน 6.6%
ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดยธนาคารมีรายได้ที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 32.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 1 พันล้านดอลลาร์ พวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้น 14% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 11% กำไรจากผู้บริโภคที่สูงขึ้น แต่ความความผันผวนของตลาดก็ได้ทำให้วงการธนาคารต้องเจอกับอุปสรรคอยู่บ้าง รายรับของเจพีฯ ลดลง 43% เป็น 1.7 พันล้านดอลลาร์
ความผันผวนของตลาดอธิบายถึงการต่อสู้ในวงการธนาคารและบริษัทต่างๆ ว่ากำลังถอยเข้าสู่โหมดการประหยัดต้นทุนแทนที่จะเข้าซื้อกิจการ โดยรวมแล้ว ปัจจัยหลักทั้งสี่ของธนาคารมีการเพิ่้มขึ้นเล็กน้อย
ตลาดจะประเมินรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีก่อน ซึ่งจะมีผลต่อเส้นทางการบริหารธนาคารเจพี มอร์แกน หลังจากรายงานผลประกอบการในวันนี้