ทองคำร่วงลงสู่จุดต่ำสุดใหม่เมื่อวันพุธหลังจากที่รายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของการประชุมเฟดเดือนมิถุนายนไม่ส่งผลดีต่อราคาทองคำเท่าไหร่หนัก คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่าควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 หรือ 70 จุดเบสิสในเดือนกรกฎาคม ก่อทำให้เกิดความตื่นตระหนกครั้งใหญ่ในตลาดฟอเร็กซ์เมื่อวานนี้ และส่งผลให้นักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง XAUUSD ที่ก่อนทราบรายงานการประชุมฯ ก็ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1732 ดอลลาร์อยู่แล้ว
ในช่วงที่ตลาดซื้อขายฝั่งเอเชียเปิดทำการในวันนี้ ราคาทองคำกำลังพยายามฟื้นตัวจากขาลงมากกว่า 800 จุดในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง จาก 1812.20 ดอลลาร์เป็นร 1732.30 ดอลลาร์ ก่อนจะขยับขึ้นมาวิ่งอยู่ที่ 1740 ดอลลาร์ นี่คือจุดต่ำสุดใหม่ในรอบหนึ่งเดือนของราคาทองคำ ขาลงดังกล่าวได้ทำให้อินดิเคเตอร์ RSI ลงมาอยู่ในโซน oversold ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อว่าต้องมีการปรับตัวกลับขึ้นมาในระยะสั้น นั่นจึงทำให้รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร NFP ในวันพรุ่งนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่่างมาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อทิศทางของราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ
ตัวเลขนอนฟาร์มส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอย่างไร?
โดยปกติแล้ว ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) จะมีการประกาศออกมาในทุกวันศุกร์แรกของเดือน เป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่วัดอัตราการว่างงานในสหรัฐอเมริกา อัตราการว่างงานเป็นข้อมูลทางการเงินที่จำเป็นในการวัดความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ การเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานมีผลกระทบเชิงลบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และจะเอื้ออำนวยต่อแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ ในทางกลับกัน ถ้าตัวเลขการว่างงานลดลง จะหมายความว่าเศรษฐกิจดี และไม่มีความจำเป็นต้องไปถือครองทองคำเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
รายงานการประชุม FOMC ยังมุ่งมั่นที่จะทำนโยบายการเงินให้ตึงตัวเหมือนเดิม ส่งดัชนีดอลลาร์สหรัฐขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 20 ปี
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (USDX) ไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 20 ปีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 มิถุนายน ได้ข้อสรุปว่าต้องทำนโยบายการเงินให้ตึงตัวต่อไป FOMC กล่าวว่าต้องสู้กับปัญหาเงินเฟ้อด้วยอาวุธทางการเงินทุกชนิดที่มี และแม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม ซึ่งหนึ่งในอาวุธที่รุนแรงของเฟดก็คือการพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมตราบใดที่เงินเฟ้อยังสูงอยู่
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 หรือ 70 จุดเบสิสอาจเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม หากเป็นเช่นนั้นจริงก็อาจผลักดันให้ดัชนีดอลลาร์ (USDX) ขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 107.2 สูงสุดในรอบ 20 ปี เมื่อดอลลาร์แข็งค่า ก็จะทำให้เกิดการเทขายครั้งใหญ่ในสกุลเงินอื่นๆ ที่จับคู่กับดอลลาร์สหรัฐ เช่น EURUSD, GBPUSD, NZDUSD, AUDUSD ที่ตอนนี้ก็วิ่งอยู่ในจุดต่ำสุดอยู่แล้ว กราฟ EURUSD พึ่งทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 20 ปี ที่ 1.0139 ดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกัน กราฟ GBPUSD ก็สามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ $1.1875 ก่อนที่จะขยับขึ้นอีกครั้งสู่ระดับราคาที่ $1.19999 กราฟ NZDUSD ก็ได้ลงไปสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่ 0.6123
ในทางกลับกัน คู่สกุลเงินที่มีดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินหลักเช่น USDCAD ก็ได้ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในวันพุธที่ $1.3082 USDCHF สร้างจุดสูงสุดในรอบรายเดือนที่ $0.974 และ USDPLN สามารถขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 4.7101 ดอลลาร์
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักลงทุนถึงให้ความสำคัญกับรายงานตัวเลข NFP ที่จะเผยแพร่ในวันนี้ เพราะตัวเลขดังกล่าวจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐต่อไปในอนาคต