ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดเบสิส (bps) มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 25 bps ทำให้ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยเงินยูโรเพิ่มขึ้นเป็นศูนย์ เทียบกับตัวเลข -0.50% ก่อนหน้านี้ ในขณะเดียวกัน อัตราการรีไฟแนนซ์หลักได้ถูกปรับลดลงเหลือ 0.5% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนต่างในปัจจุบันตอนนี้อยู่ที่ 0.75% ครั้งสุดท้ายที่ ECB ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยต้องย้อนกลับไปถึงปี 2011 หรือเมื่อ 11 ปีก่อน ซึ่งตรงกับช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจพอดี
ECB ระบุว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมและกันยายนเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะปรับรูปแบบการลงทุนตามนโยบายของ ECB นั่นจึงเป็นสาเหตุอธิบายสาเหตุที่ว่าทำไมเมื่อคณะกรรมการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจัง ตลาดลงทุนจึงได้ตอบสนองอย่างรุนแรง ทั้งหมดนี้เพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อดูจากรายงานเงินเฟ้อเดือนมิถุนายน ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าอัตราเงินเฟ้อของยุโรปเพิ่มขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 22 ปีที่ 8.6% YoY เทียบกับ 8.1% ในเดือนพฤษภาคม
ด้วยเหตุนี้ ในระหว่างการประชุมเมื่อวาน คณะกรรมการพิจารณาว่าจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อหนุนให้เงินยูโรแข็งค่า ตามรายงานของ ECB เมื่อวันพฤหัสบดี พวกเขาเห็นว่าจำเป็นต้องดำเนินการเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง ตั้งแต่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก เพื่อนำไปสู่การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เป็นมาตรฐาน และสถานการณ์เงินเฟ้อในปัจจุบัน จึงทำให้ไม่มีทางเลือกนอกจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps มากกว่า 25 bps ที่เคยคุยกันไว้ ในระหว่างการประชุมครั้งก่อน
นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 bps ในการประชุมเดือนกันยายน และครั้งต่อไปจะเพิ่มขึ้น 25 bps จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายของธนาคารกลางฯ ที่ 2.0% อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้นี่อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เงินเฟ้อในอนาคตว่าจะปรับตัวลดลงตามที่ ECB คาดหวังเอาไว้หรือไม่
คณะกรรมการนโยบายการเงินแห่งธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเมื่อวานนี้ว่าเป้าหมายสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคือเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงเหลือ 2.0% พวกเขารายงานว่าคณะกรรมการฯ เห็นด้วยกับการดำเนินการในสำเร็จตามเป้าหมายระยะกลางของ ECB ที่จะทำให้เงินเฟ้อกลับมาอยู่ในกรอบเป้าหมาย 2.0% “โดยการเสริมความแข็งแกร่งของการคาดการณ์เงินเฟ้อ และสร้างความมั่นใจว่าระดับความต้องการจะปรับตัวตามเป้าหมายเงินเฟ้อในระยะกลาง”
ประธาน ECB นางคริสตีน ลาการ์ดยืนยันว่า ECB จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เธอกล่าวว่า “อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงคือสิ่งที่ ECB ไม่พึงปรารถนา เราคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่เหนือเป้าหมายของเราเป็นระยะเวลาหนึ่ง” นอกจากนี้ เธอยังรายงานว่า “ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อล่าสุดของเดือนที่แล้วบ่งชี้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้แนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 และปีต่อๆ ไปไม่ชัดเจน”
ความท้าทายที่สำคัญสำหรับ ECB คือการช่วยประเทศในสหภาพยุโรปที่มีประวัติหนี้สินสูงสามารถเอาตัวรอดไปพร้อมๆ กันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิตาลี ให้พ้นจากภาวะชะงักงันและภาวะถดถอย เพื่อช่วยเหลือประเทศเหล่านี้ ECB ได้พัฒนา ‘เครื่องมือลดความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ต่างกัน (AFT)’ ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนประเทศที่มีประวัติหนี้สินสูง โดยอนุญาตให้ทยอยชำระหนี้คืนได้ เครื่องมือนี้จะต้องถูกนำมาใช้ เพื่อต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของตลาด ที่ไม่เป็นไปตามหลักประกันของกลุ่ม ซึ่งทำร้ายนโยบายการเงินของยูโรโซน AFT เป็นเครื่องมือลดผลกระทบส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยน ที่จะช่วยประเทศในยุโรปที่มีความเสี่ยงในการชำระหนี้ โดยไม่ต้องกู้ยืมเพิ่มเติม ตามที่คณะกรรมการฯ ระบุ วิธีแก้ไขคือพวกเขาคือการยึดมั่นใน “นโยบายการคลังและเศรษฐกิจมหภาคที่ยั่งยืน”
การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB ครั้งนี้จะส่งผลต่อคู่กราฟ EURUSD อย่างไรบ้าง
ในอดีต การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสำหรับสกุลเงินหนึ่งๆ จะช่วยหนุนค่าเงินของประเทศเสมอ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช่วยลดปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ จึงทำให้เกิดการขาดแคลนสกุลเงินตามธรรมชาติ ทำให้มูลค่าการแลกเปลี่ยนแข็งแกร่งขึ้นในระยะยาว ดังนั้น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยล่าสุดของธนาคารกลางยุโรปจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการฟื้นตัวของเงินยูโรที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนซ้ำอีกครั้ง
หลังจากที่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ ตลาดลงทุนเริ่มตอบสนองในเชิงบวกต่อข่าวทันที แรงส่งขาขึ้นได้ดันกราฟ EURUSD ให้ปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ที่ 1.0275 ก่อนเกิดการพักตัวในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าแนวโน้มขาขึ้นจะยังสามารถไปต่อได้ในสัปดาห์ข้างหน้า
เป้าหมายราคาหลักของ EURUSD ในตอนนี้อยู่ที่ 1.0308 หากสามารถทำได้สำเร็จ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อไปยัง 1.0384 แต่ถ้าไม่ เราอาจคาดว่าราคาจะลงไปทดสอบแนวรับอีกครั้งที่ 1.0180 หรือ 1.0080
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นโดยรวมของนักลงทุนที่มีต่อ EURUSD ในขณะนี้เป็นขาขึ้น