ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับสำคัญเพราะความกังวลที่มีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก
กราฟ US30 รายวัน
ขณะนี้ ระดับราคา 35,000 ถือเป็นด่านแนวรับสำคัญสำหรับดัชนี US30 หากไม่มีแนวรับนี้ ดัชนีหุ้นดังกล่าวอาจเผชิญกับการปรับตัวลดลงมากกว่านี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งขึ้นได้ ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ออกมาอยู่ที่ 0.7% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการที่ 0.4% อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและความแข็งแกร่งของผู้บริโภคได้ทำให้อุปสงค์ในประเทศสหรัฐฯ ดีขึ้น แต่ประเด็นภายนอกยังคงเป็นปัจจัยกดดัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงเพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบปี สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะนักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของจีนหลังโควิด จากข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่ลดลง ทาง PBOC จึงได้ลดอัตราดอกเบี้ยที่มีความสำคัญ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารระยะเวลา 1 ปีที่เป็นมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอย่างจีนก็ยังมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์
นักยุทธศาสตร์ของธนาคารแซกโซให้ความเห็นว่า”ข้อมูลที่ประกาศโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเผยว่าการผลิต การบริโภค และการลงทุนของจีนชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกรกฎาคม แม้ว่าจะมีความพยายามกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ธนาคารประชาชนจีนตอบโต้ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลัก 2 ครั้งในรอบ 3 เดือนอย่างไม่ทันตั้งตัว”
ความพยายามของธนาคารกลางจีนผลักดันให้ตลาดหุ้นเอเชียกลายเป็นสีแดง ซึ่งส่งผลเสียต่อตลาดยุโรปและสหรัฐฯ นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้ระงับการประกาศข้อมูลการว่างงานของเยาวชนด้วย เพราะกังวลว่าจะนำไปสู่การหยุดชะงักของตลาดแรงงานในอนาคต
อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน กระทรวงการคลังวางแผนที่จะเพิ่มยอดขายพันธบัตรมากกว่า 103,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มยอดขาย T-bill มูลค่า 132,000 ล้านดอลลาร์ในตลาดเมื่อวานนี้
นักวิเคราะห์ของ Fitch Ratings ให้ข้อมูลกับ CNBC ว่าหพวกเขาสามารถปรับลดอันดับเครดิตผู้ให้กู้ได้มากขึ้น ซึ่งรวมถึงธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JP Morgan ก็ไม่เว้น ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงกฎที่นำเสนอโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการธนาคารชั้นนำได้เพิ่มความกังวลให้กับนักลงทุน ความกังวลหลายอย่างกำลังก่อตัวขึ้นหลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ และนักลงทุนควรระวังการย่อตัวกลับลงมา
นักลงทุนรายใหญ่อาจมีการเทขายเพิ่มหลังจากผลสำรวจผู้จัดการสินทรัพย์ของ Bank of America ซึ่งจัดการสินทรัพย์โดยรวมมูลค่า 685 พันล้านดอลลาร์กลายเป็นขาลงในรอบ 18 เดือน นับเป็นการถือครองเงินสดในสัดส่วนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดลงทุนอยู่ในจุดสูงที่สุด และธนาคารกลางกำลังเริ่มเดินหน้าทำนโยบายคุมเข้มทางการเงิน