เป็นอีกครั้งที่นักลงทุนได้เห็นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมากดดันประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์ผ่านสื่อโซเชียลหลังการประกาศตัวเลขการจ้างงาน ADP ออกมาอ่อนแอ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 100.00 และจะทดสอบระดับต่ำสุดที่ 97.54 อีกครั้ง ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสกุลเงินต่างประเทศ
โดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เขากล่าวโทษเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ทำให้การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัวลงเมื่อเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดีทรัมป์โจมตีพาวเวลล์ว่าเป็นคนที่ทำอะไรก็ “สายเกินไป” หลังเห็นข้อมูลจากบริษัทด้านการจ้างงาน ADP ระบุว่าการจ้างงานในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกชะลอตัวลงในเดือนที่แล้ว มุ่งหน้าสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี
ตลาดงานที่ซบเซาในอังกฤษยังทำให้การเติบโตของโลกซบเซาลงอีกด้วย ในอเมริกา ตัวเลขของ ADP แสดงให้เห็นว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 37,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 ตลาดคาดว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 110,000 ตำแหน่ง และทรัมป์ก็รีบโทษนโยบายการเงินของเฟดทันที บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขา เขากล่าวว่า “ตัวเลข ADP ออกมาแล้ว ‘สายเกินไปตลอด’ พาวเวลล์ต้องลดอัตราดอกเบี้ย เชื่อเขาเลย ยุโรปลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วเก้าครั้ง”
คำพูดล่าสุดของเขาอาจจุดชนวนความขัดแย้งระหว่างเขากับธนาคารกลางอีกครั้ง และอาจทำให้เกิดความกังวลว่าทรัมป์จะพยายามปลดพาวเวลล์ออกจากตำแหน่งประธานเฟดหรือไม่ ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ถอนคำพูดที่บอกว่าเขาจะไล่พาวเวลล์ออกหลังจากเกิดการเทขายหุ้นเนื่องจากความตื่นตระหนกของตลาด
แนวโน้มของดอลลาร์สหรัฐยังคงลดลง ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นรายได้จากภาษีศุลกากร ขณะที่ประเทศต่างๆ ในต่างประเทศจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสำหรับสินค้าที่นำเข้า แม้จะมีการผ่อนคลายภาษีศุลกากรแล้วก็ตาม USDX ลดลงประมาณ -6% นับตั้งแต่มีการประกาศภาษีศุลกากรในเดือนมีนาคม