ในวันพฤหัสบดีนี้ นักลงทุนจะได่้ทราบผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังที่เป็นเจ้าของมือถือ “iPhone” อย่างแอปเปิล (AAPL)
กราฟ AAPL รายสัปดาห์
หุ้น AAPL ซื้อขายอยู่ที่ 170.11 ดอลลาร์ในวันอังคาร อยู่ในระดับต่ำสุดในเดือนกันยายน โดยมีแนวต้านด้านบนและเป้าหมายแรกอยู่ที่ 182 ดอลลาร์ หากผลประกอบการของบริษัทออกมาผิดหวัง หุ้น AAPL อาจลงแตะระดับ 150 ดอลลาร์ได้หากดัชนี Nasdaq ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในภาวะขาลง
หุ้นของ Apple ปรับตัวลดลงเกือบ 14% จากระดับสูงสุดตลอดกาลด้วยการมีมูลค่าตลาดสามล้านล้านในเดือนกรกฎาคม ความต้องการสินค้าแอปเปิลจากประเทศจีนที่ลดลงอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานประจำไตรมาสเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้จากการบริการจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ในไตรมาสเดือนมิถุนายน Apple ทำกำไรต่อหุ้นและความคาดหวังด้านรายได้เหนือกว่าคาดการณ์เพราะยอดขายในจีน ฮ่องกง และไต้หวันเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของรายได้แบบปีต่อปีของบริษัทลดลงเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน ข้อมูลดังกล่าวลดลง 1% เพราะยอดขาย iPad ที่ลดลงอย่างมากและความต้องการจากผู้บริโภคชาวอเมริกันที่ลดลง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยอดขาย iPhone (ซึ่งคิดเป็นประมาณ 50% ของรายได้ของบริษัท) ลดลง 2.45% เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดขาย iPad ลดลง 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากผู้บริโภคมีความรัดกุมเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น
จุดทำกำไรของบริษัทยังคงเป็นรายได้จากการบริการ ซึ่งรวมถึง Apple Store, AppleCare, iCloud และอื่นๆ กำไรจากภาคบริการเพิ่มขึ้น 8.2% ในช่วงสี่ไตรมาสที่ผ่านมา Apple TV, AppleCare, Apple Payment และ iCloud ในไตรมาสเดือนมิถุนายนต่างก็มีรายรับสูงเป็นประวัติการณ์ ตอกย้ำถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่งในความต้องการด้านบริการของบริษัท
นักลงทุนจะกระตือรือร้นที่จะเห็นว่ายอดขาย iPhone 15 ทำจะยังทำกำไรให้กับบริษัทได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลจีนสั่งห้ามใช้โทรศัพท์มือถือจากต่างชาติเมื่อเดือนกันยายน ส่งผลกระทบต่อหุ้น AAPL
นักวิเคราะห์จาก Wall Street คาดว่าจะเห็นกำไรต่อหุ้นที่ 1.39 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี รายรับคาดว่าจะลดลง 1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเป็น 89.31 พันล้านดอลลาร์ ยอดขาย iPhone คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่บริการต่างๆ เมื่อเทียบเป็นรายปี ควรมีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 11%
Apple จัดงานสตรีมมิ่ง “Scary Fast” ในคืนวันจันทร์ โดยประกาศการเปิดตัว Mac และ MacBooks ที่ได้รับการอัพเกรดพร้อมชิปรุ่นต่อไป M3 โปรเซสเซอร์ใหม่จะมอบประสิทธิภาพที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา และจะเป็นอีกหนึ่งตัวขับเคลื่อนรายได้ในช่วงปลายปี
ภาพรวมตลาดลงทุนในวงกว้างจะเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญสำหรับหุ้น Apple ภาพที่ หุ้นเทคโนโลยี ตกต่ำเมื่อไม่นานมานี้ทำให้เกิดภาวะหมีกับหุ้น AAPL เช่นกัน