ดัชนีหุ้นกลุ่มบลูชิปของฮ่องกงยังคงปรับตัวขึ้นต่อจากการรีบาวด์ที่มาจากจุดต่ำสุดของเดือนเมษายน

ราคา HK50 พุ่งขึ้นแตะระดับ 24,158 ซึ่งสูงกว่าระดับสูงสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2024 และถือเป็นการดีดตัวกลับอย่างรวดเร็วจากระดับต่ำสุดเมื่อเดือนเมษายน เป้าหมายต่อไปคือระดับ 24,907
ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นหลังจากที่สองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกเริ่มเจรจาการค้า ซึ่งอาจช่วยหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก เจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯ และจีนได้มารวมตัวกันที่ลอนดอนเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าต่างๆ
นักลงทุนต่างหวังว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะลดภาษีหลังจากบรรลุข้อตกลงการค้ากับประเทศอื่นๆ ที่ทำให้หุ้นสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน
ตลาดจีนปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันแม้ว่ารัฐบาลจะรายงานว่าการส่งออกชะลอตัวในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 4.8% จากปีก่อน หลังจากพุ่งขึ้นมากกว่า 8% ในเดือนเมษายน การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ลดลง 35% ในเดือนพฤษภาคม และลดลงเกือบ 10% ในเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมเมื่อพิจารณาเป็นรายปี
จีนยังกล่าวอีกว่าดัชนีราคาผู้บริโภคลดลง 0.1% ในเดือนพฤษภาคมจากปีก่อน ทำให้เป็นเดือนที่สี่ติดต่อกันที่เกิดภาวะเงินฝืด
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤษภาคมของจีนลดลง -0.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี เมื่อเทียบกับ -0.2% ในเดือนเมษายน การลดลงนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ลดลง -1.7% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งคิดเป็น 70% ของการลดลง อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณเบื้องต้นบางอย่างที่บ่งชี้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัว ราคาที่พักในโรงแรมเพิ่มขึ้น 4.6% ราคาการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 0.8% และราคาเสื้อผ้าใหม่เพิ่มขึ้น 0.6%
การพุ่งขึ้นของหุ้นในฮ่องกงนำโดยหุ้นอินเทอร์เน็ต หุ้น Meituan เพิ่มขึ้น 4.73% JD เพิ่มขึ้น 4.12% Trip.com เพิ่มขึ้น 4.88% และ Alibaba เพิ่มขึ้น 2.32% หุ้น EV พลาดคาดการณ์เนื่องจากความกลัวการแข่งขันด้านราคาล่าสุด ซึ่งเกิดขึ้นจากการปรับลดราคารถยนต์ของ BYD