ตลาดหุ้นฮ่องกงกำลังปรับตัวลดลง และอาจเป็นเช่นนั้นเพราะผลกระทบจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทั่วโลก
กราฟ HK50 รายสัปดาห์
ดัชนี HK50 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 19,408 โดยมีแนวรับที่ 18,144 ซึ่งเป็นแนวรับที่ต้องย้อนหลังกลับไปถึงในเดือนมีนาคม 2022
ตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากอาลีบาบาประกาศยอดขายที่ผิดคาดไปในไตรมาสที่สี่ เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของจีนหลังวิกฤตโควิด-19 ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซรายงานว่ายอดขายในประเทศลดลง 3% ยิ่งไปดว่านั้น กำไรจากธุรกิจคลาวด์ระบุว่ารายได้ลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อเทียบเป็นรายปี อาลีบาบากล่าวว่าอาจแยกทำ IPO ให้กับธุรกิจคลาวด์และพิจารณาให้หุ้นของธุรกิจโลจิสติกส์และร้านสะดวกซื้อ
ถูกลิสต์ขึ้นตลาดหุ้นแยกเองไปเลยต่างหาก
ความสัมพันธ์ทางการฑูตของจีนกลับมาอยู่ในวาระการประชุมอีกครั้ง หลังจากกลุ่มประเทศ G7 ส่งคำเตือนไปยังจีน
นายกรัฐมนตรีอังกฤษริชิ ซูนัค (Rishi Sunak_ กล่าวว่าจีนเป็น “ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา” เกี่ยวกับความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของโลก และส่งเสริมการเป็น “เผด็จการมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ” บรรดาผู้นำประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกวิพากษ์วิจารณ์ท่าทีของปักกิ่งในประเด็นต่างๆ เช่น ไต้หวัน และ G7 ยังกล่าวหาว่าประเทศจีนมีการ “บีบบังคับทางเศรษฐกิจ”
กลุ่มประเทศ G7 เรียกร้องให้ใช้นโยบาย “ลดความเสี่ยง” ที่จะแยกเศรษฐกิจของตนออกจากจีนด้วยแหล่งการค้าที่หลากหลายและการคุ้มครองการค้าและเทคโนโลยี
หุ้นจีนประสบปัญหาตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนนับตั้งแต่จีนเปิดเผยตัวเลขผลผลิตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ตลาดหุ้นจีนสูญเสียมูลค่า 540 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่นั้นมา นักลงทุนลดการลงทุนในประเทศจีนลงหลังจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนก่อนหน้านี้ ดัชนี Nasdaq Golden Dragon China และ Hang Seng ร่วงลง 5% ขณะที่เงินหยวนของจีนก็อ่อนค่าลงราว 2% เช่นกัน
ภาพรวมตลาดหุ้นฮ่องกง
Brock Silvers จาก Kaiyuan Capital ในฮ่องกงมีความเห็นว่า “นักลงทุนยังคงมีความสงสัยเกี่ยวกับจีนด้วยเหตุผลหลัก 2 ประการ ประการแรก การฟื้นตัวยังไม่แข็งแกร่ง ปัญหาที่สองคือความสามารถในการลงทุนขั้นพื้นฐาน” ซึ่งเกี่ยวข้องกับความตึงเครียดทางการเมือง
จีนจำเป็นต้องแสดงความไว้วางใจในบริษัทต่างชาติมากขึ้นด้วยการลดหย่อนมาตรการที่ดำเนินการกับบริษัทระหว่างประเทศ และการใช้กฎหมายต่อต้านจารกรรมเพิ่มเติม การวิพากาษ์วิจารณ์จีนจากทั่วทุกมุมโลกจะยังคงอยู่ต่อไปในขณะที่ G7 ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์จีนมากขึ้นเช่นกัน ในขณะเดียวกัน บริษัทการลงทุนขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะงดการลงทุนในสหราชอาณาจักรลง
