ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้นหลังอิหร่าน-อิสราเอลดูเหมือนว่าจะสามารถตกลงหยุดยิงสร้างสันติภาพร่วมกันได้

ดัชนี HK50 พุ่งแตะระดับ 24,177 หลังจากพบแนวรับที่ระดับสูงสุดในเดือนตุลาคมที่ 23,232 จุด ซึ่งจะให้การสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นไปที่ระดับสูงสุดที่ 24,876 จุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ซึ่งทำให้นักลงทุนกล้าเสี่ยงมากขึ้น และคลายความกังวลเกี่ยวกับตลาดน้ำมันหยุดชะงัก ดัชนี CSI 300 พุ่งขึ้น 2.1% ดัชนี Shanghai Composite ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวว่า อิสราเอลและอิหร่านได้ตกลงที่จะหยุดยิง 24 ชั่วโมง ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่อเมริกาโจมตีดินแดนของอิหร่าน อิหร่านได้โจมตีฐานทัพอากาศของสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้ และขู่ว่าจะปิดเส้นทางเดินเรือหลักสำหรับการขนส่งน้ำมันดิบ
นักลงทุนทั่วโลกมองว่าฮ่องกงเป็นที่ปลอดภัย และเชื่อถือได้ เนื่องจากฮ่องกงมีความแข็งแกร่งในตลาดหุ้นและการจัดการความมั่งคั่ง ตามที่พอล ชาน โมโป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกงกล่าว แม้ว่าจะมีสภาพแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจระดับโลกที่ไม่แน่นอน แต่สถานะของฮ่องกงในฐานะท่าเรือเสรีและระบบกฎหมายที่เข้มแข็งเป็นเหตุผลสำคัญที่นักลงทุนต่างชาติเลือกตลาดฮ่องกงแทนหุ้นจีนในประเทศ
ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในตลาดหุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้นเป็น 240,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในปีนี้ ขณะที่การระดมทุน IPO กำลังเป็นที่จับตามองของโลก
“คาดว่าภายในสองถึงสามปีข้างหน้า ฮ่องกงจะกลายเป็นศูนย์กลางการจัดการสินทรัพย์ข้ามพรมแดนชั้นนำของโลก” ชานกล่าวเสริม
ในขณะเดียวกัน หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ จ่ออยู่ที่ระดับสูงสุดตลอดกาล กระแสเงินที่ไหลเข้าฮ่องกงน่าจะยังคงได้รับการสนับสนุนในฐานะโอกาสในการกระจายความเสี่ยง
สถานการณ์ในตะวันออกกลางคลี่คลายลงจากข้อตกลง “เบื้องต้น” แต่ยังคงแนะนำให้ระมัดระวังเนื่องจากหุ้นเข้าใกล้ระดับสูงสุดล่าสุด ระดับที่ระบุไว้ใน HK50 ให้การสนับสนุน และสามารถรับการทะลุแนวรับหรือการปรับฐานได้ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับฐานหากนักลงทุนเกิดความไม่แน่ใจ