ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี การตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ของเฟดได้รับการประกาศในที่สุด ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดลงทุนอย่างรวดเร็ว หลังการประกาศผลการประชุมนโยบายการเงิน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้อ่อนค่าลง ในขณะที่ตลาดหุ้นกลับปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่น่าสนใจคือแม้แต่ราคาทองคำ XAUUSD (ซึ่งก่อนหน้านี้ค่อนข้างซบเซา) ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากประกาศฯ ด้วย มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1,750 เหรียญสหรัฐ นักลงทุนต่างตั้งตารอว่าราคาทองคำจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นอีกในอนาคตอีกหรือไม่

ความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ หลังการประชุมอัตราดอกเบี้ยมีส่วนเปิดโอกาสขาขึ้นให้กับทองคำ เขากล่าวว่าการวางนโยบายการเงินของเฟดที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วงก่อนถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และอาจเป็นการเหมาะสมที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยบ้างแล้ว ถึงกระนั้นเฟดยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเริ่มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด

อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงของประธานเฟดเช่นนี้หมายความว่ายังมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงอีกในอนาคต หรืออาจจะลดตัวเลขการขึ้นอัตราดอกเบี้ยลง ตลาดลงทุนมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนความเชื่อที่มีต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไป เริ่มมีนักวิเคราะห์บางกลุ่มเชื่อว่าเฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 50 bps แทนที่จะเป็น 75 bps ตามเดิม สถานการณ์เช่นนี้หมายความว่าความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้เริ่มลดลงแล้ว

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจล่าสุดในยุโรปและสหรัฐอเมริกายังไม่เป็นที่น่าพอใจ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงซบเซา แม้ว่าพาวเวลล์จะพูดกับสื่อว่าขณะนี้ไม่มีภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เขายังกล่าวด้วยว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจจะต่ำกว่าแนวโน้มก่อนหน้านี้ในบางครั้ง ความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นเครื่องบินทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สามารถลงจอดได้อย่างนุ่มนวลยิ่

งลดลงเป็นอย่างมาก นักวิเคราะห์เชื่อว่าเราจะได้เห็นสภาพเศรษฐกิจตอบสนองต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่สัปดาห์หรืออีกหลายเดือนข้างหน้า หากจะแก้สถานการณ์นี้ การเปิดเผยข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจในอนาคตจะต้องยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อในตอนนี้จะค่อยๆ ปรับตัวลดลง หากไม่มีการควบคุมเงินเฟ้อ ค่าเงินดอลลาร์อาจฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าและกดราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ ปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของราคาทองคำหลายอย่างจะเปลี่ยนไปหลังจากเข้าสู่ครึ่งปีหลัง การที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงสร้างแรงกดดันอย่างต่อเนื่องต่อราคาทองคำ มีโอกาสที่ตลาดลงทุนฝั่งหมีจะสามารถเข้ามาครองตลาดได้ ในตอนนี้ ความสนใจของนักลงทุนทองคำได้เปลี่ยนจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกที่ 50 bps สูงเกินความคาดหมายของตลาด การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในยูโรโซนอาจเริ่มไล่ตามอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น ซึ่งอาจช่วยทำให้เทรนด์กราฟ EURUSD ปรับตัวขึ้นและกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลง ดังนั้น จึงยังมีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้น สร้างโอกาสทำกำไรได้เช่นกัน

อีกด้านหนึ่ง การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธนาคารกลางยุโรปและอเมริกายังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถลดความต้องการลงและชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะส่งผลกระทบต่อสกุลเงินรองมากขึ้น นักลงทุนที่ต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยจะแห่กันไปที่ตลาดทองคำมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ราคาทองคำฟื้นตัวได้ สมมติว่าความเสี่ยงด้านหนี้ยุโรปยังคงกดดันค่าเงินยูโรในอนาคต ในกรณีนั้น อาจเป็นไปได้ว่าทั้งเงินดอลลาร์และทองคำจะปรับตัวขึ้นขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดการเงินยังไม่ได้ประเมินความเสี่ยงที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในสหรัฐอเมริกาและยุโรป หากความเสี่ยงจากโรคระบาดยังคงเพิ่มสูงขึ้น นักลงทุนจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งน่าจะเช่วยสนับสนุนขาขึ้นต่อราคาทองคำ

มีหลายปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อทองคำในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เงินเฟ้อในยุโรปและสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเด็นที่ยุ่งยากซับซ้อน ไม่มีการลดลงอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ปัญหาการขาดแคลนพลังงานยังคงเป็นปัญหาหลักของประเทศในยุโรปและอเมริกา ซึ่งอาจจำกัดขาขึ้นราคาทองคำในระยะสั้น ดังนั้น กุญแจสำคัญในการกำหนดแนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นยังคงเป็นข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด ที่มีโอกาสสร้างแนวโน้มขาขึ้นและลงในช่วงครึ่งปีหลังได้พอๆ กัน