EURUSD ปรับตัวลดลงมาทดสอบระดับแนวรับที่ใกล้ที่สุดหลังจากทราบข้อมูลในรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่บอกใบ้ถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
กราฟ EURUSD รายวัน
EURUSD กำลังทดสอบระดับแนวรับแรกที่ 1.0850 โดยมีแนวรับที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 1.0675 หากหลุดลงมาได้ มีโอกาสที่ราคาจะลงไปที่ 1.0525
ประเด็นสำคัญบางประการจากรายงานการประชุม FOMC:
“ในการหารือเกี่ยวกับแนวโน้มของนโยบาย ผู้เข้าร่วมการผประชุมทั้งหมดยังคงคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 2 ของคณะกรรมการฯ และตลาดแรงงานยังคงตึงตัวมาก การรักษาจุดยืนที่เข้มงวดของนโยบายการเงินจึงเหมาะสม เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการเกือบทั้งหมด ผู้เข้าร่วมการประชุมให้ความเห็นเกี่ยวกับการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจว่าการตัดสินที่จะเพิ่มเป้าหมายอัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลางในช่วงปี 2023 ยังเหมาะสม”
ผู้เข้าร่วมการประชุม FOMC ยังได้หารือถึงศักยภาพของอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและจะคงอยู่ไปอีกช่วงเวลาหนึ่งว่า
“ผู้เข้าร่วมการประชุมเกือบทั้งหมดระบุว่า ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายระยะยาวของคณะกรรมการฯ และตลาดแรงงานที่ยังตึงตัวอยู่ ปัจจัยสำคัญที่สร้างทำให้เกิดมุมมองต่อนโยบายการเงินต่างๆ คือความเสี่ยงเชิงบวกต่อแนวโน้มเงินเฟ้อ หรือความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่สูงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อไม่คงที่”
ดังนั้น องค์ประกอบเหล่านี้จึงทำให้ FOMC ต้องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมิถุนายน แต่ผู้กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ตัดสินใจหยุดชั่วคราวเพื่อดูข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ขณะนี้ตลาดกำลังมองเห็นโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกรกฎาคม เว้นแต่ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ตัวเลขตลาดงานล่าสุดจะมีการประกาศในวันศุกร์นี้ โดยงานและค่าจ้างเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ระดับอัตราเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไป
ปัญหาอีกประการหนึ่งสำหรับระดับอัตราดอกเบี้ยคือผู้กำหนดนโยบายมองเห็นแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงิน เนื่องจากการออกตั๋วเงินคลังจำนวนมากถือเป็นสิ่งจำเป็นหลังจากการดราม่าเพดานหนี้จบลง
คนในเฟดยังกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในระบบธนาคารเพิ่ม เขากล่าวว่า
“แม้ว่าความเครียดในภาคธนาคารจะลดลง แต่ผู้เข้าร่วมการประชุมบางคนให้ความเห็นว่าสิ่งสำคัญคือต้องติดตามว่าทิศทางในภาคการธนาคารจะนำไปสู่การเข้มงวดของเงื่อนไขสินเชื่อมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจหรือไม่”
สุดท้ายนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางฯ ยังคงคาดการณ์ว่าจะเกิด “ภาวะถดถอยที่ไม่รุนแรง” ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปลายปีนี้
“ตัวเลขจีดีพีที่แท้จริงคาดว่าจะชะลอตัวลงในไตรมาสปัจจุบัน และไตรมาสถัดไปก่อนที่จะลดลงเล็กน้อยทั้งในไตรมาสที่สี่ของปีนี้และไตรมาสแรกของปีหน้า”