เงินยูโรอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 1.1100 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันจันทร์ เนื่องจากมีความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) มากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสกุลเงิน คู่ EURUSD ร่วงลง 0.44% ปิดวันที่ 1.1036 ในวันที่นักลงทุนคาดหวังมากขึ้นว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดเบสิสในการประชุมวันที่ 12 กันยายน ตลาดจึงยังเตรียมพร้อมสำหรับ ECB ที่จะลดการเติบโตทางเศรษฐกิจและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ
กราฟ EURUSD รายวัน
นักลงทุนอยู่ในโหมดเฝ้าระวัง โดยคาดว่า ECB จะใช้แนวทางที่ผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน ความสนใจกำลังหันไปที่รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่กำลังจะประกาศ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ ปัจจุบัน ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาส 70% ที่จะลดดอกเบี้ย 25 จุดเบสิส และเชื่อว่ามีโอกาส 30% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 50 จุดเบสิส
แม้ว่าค่าเงินยูโรจะอ่อนค่าลง แต่หุ้นสหรัฐฯ ก็ปิดตัวสูงขึ้นเมื่อวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่มีต่อสินทรัพย์เสี่ยงก่อนรายงานเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ ในยุโรป ความคาดหวังที่มีต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB ได้ส่งผลให้ตลาดเชื่อว่าจะมีปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งหมดสูงสุดถึง 75 จุดเบสิสภายในสิ้นปีนี้
จากมุมมองทางเทคนิค แนวโน้ม EURUSD ยังคงทรงตัว-ขาขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือหากทั้งคู่ตกลงต่ำกว่าระดับต่ำสุดในวันที่ 3 กันยายนที่ 1.1026 ก็อาจเห็นการลดลงเพิ่มเติม ราคาอาจจะไปทดสอบระดับแนวรับสำคัญที่ 1.1000 และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ 1.0958 หากระดับเหล่านี้ทะลุไป เป้าหมายถัดไปอาจอยู่ที่ประมาณพื้นที่ 1.0867/1.0858 ในทางกลับกัน การเคลื่อนตัวเหนือระดับสูงสุดในวันที่ 9 กันยายนที่ 1.1091 จทำให้ราคากลับไปสู่โมเมนตัมขาขึ้น
ในสัปดาห์นี้ เทรดเดอร์จะยังคงให้ความสำคัญกับสถานการณ์ในตลาด พวกเขาจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างใกล้ชิด รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนีและตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน รายงาน CPI ของสหรัฐฯ รายงานเหล่านี้มีความสำคัญสูงสุดเนื่องจากสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินการในอนาคตของทั้ง ECB และ Fed ซึ่งอาจผลักดันให้ EURUSD เกิดความเคลื่อนไหวในอนาคตต่อไป