อัตราแลกเปลี่ยน EUR/USD ทรงตัวที่ 1.1476 หลังจากพุ่งขึ้นเล็กน้อยไปยืนเหนือ 1.15 เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ขณะที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและคำกล่าวของทรัมป์ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นได้ไม่มาก
เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%–4.50% โดยระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัวอย่างมั่นคง และแรงงานยังแข็งแกร่ง เฟดจะยังคงลดการถือครองพันธบัตร และติดตามความเสี่ยงต่อไป คนในเฟดได้ปรับลด GDP ลง อัตราการว่างงานแทบไม่เปลี่ยนแปลง และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปีนี้ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความเปิดกว้างต่อการพบปะกับอิหร่าน และประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ยังคงยืนหยัดความเป็นกลาง พร้อมตอบสนองต่อแรงกระแทกจากภายนอก
อัตราเงินเฟ้อของเขตยูโรโซนแตะเป้าหมายของ ECB ในเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของ ECB เช่น มาริโอ เซนเตโน และฟาบิโอ ปาเนตตา มองว่าความเปราะบางของเศรษฐกิจสหภาพยุโรปเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากกว่า บ่งชี้ถึงความไม่สอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% สิ่งนี้อาจส่งผลให้ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แม้ว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่สนับสนุนให้หยุดผ่อนปรนนโยบายก็ตาม
EURUSD ปรับตัวลดลง ดูเหมือนว่าเฟดน่าจะลดดอกเบี้ยเพียงสองครั้ง
EUR/USD ร่วงต่อเนื่อง เนื่องจากทรัมป์เปิดประตูให้มีการเจรจากับอิหร่าน และประธานเฟด พาวเวลล์ส่งสัญญาณอัตราดอกเบี้ยที่คงที่ พาวเวลล์ระบุว่าภาษีศุลกากรจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและผลักดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้น แต่อัตราดอกเบี้ยคงเดิมก็เหมาะสม เนื่องจากตลาดแรงงานแข็งแกร่งและเงินเฟ้อลดลง จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 245,000 ราย ตรงตามที่คาดไว้ ขณะที่จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง ภาคที่อยู่อาศัยชะลอตัวลงในเดือนพฤษภาคม การเริ่มต้นก่อสร้างลดลง 9.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และใบอนุญาตก่อสร้างลดลง 2% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในสหภาพยุโรปในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี (คาดการณ์) ลดลงจาก 2.2% ในเดือนเมษายน โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี (คาดการณ์) ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจกระตุ้นให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางมีท่าทียังใช้นโยบายการเงินเจ้มงวด ตลาดการเงินไม่คาดหวังว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม
การวิเคราะห์ทางเทคนิค EURUSD: ขาลงเล็งไปที่ 1.1450 ตราบใดที่ราคายังคงวิ่งอยู่ต่ำกว่า 1.15
EUR/USD ยังคงแนวโน้มขาขึ้นตราบใดที่ราคายังคงอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 20 วันที่ 1.1493 ราคามีรูปแบบการเคลื่อนไหวที่สม่ำเสมอ สร้างจุดสูงสุดที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงโอกาสในการปรับขึ้นต่อไป
หากต้องการให้แนวโน้มขาขึ้นดำเนินต่อไป คู่เงินจะต้องทะลุระดับ 1.15 และจุดสูงสุดในวันที่ 17 มิถุนายนที่ 1.1578 ได้อย่างเด็ดขาด หากทะลุระดับนี้ไปได้ เป้าหมายถัดไปคือ 1.16 ตามด้วยจุดสูงสุดประจำปีที่ 1.1631
ในทางกลับกัน การทำราคาปิดรายวันต่ำกว่า 1.15 มีแนวโน้มที่จะเร่งให้ราคาไปทดสอบที่ 1.1450 ระดับแนวรับสำคัญถัดไปคือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 20 วันที่ 1.1419 และ 1.14 ตามลำดับ