แดน ไอฟ์ (Dan Ives) นักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์เว็ดบุช (Wedbush Securities) ได้ไฮไลท์ให้เห็นหุ้นเทคโนโลยีหลัก 3 ตัวที่คาดว่าน่าจะทำผลงานได้อย่างโดดเด่น
กราฟ AMD รายวัน
AMD ร่วงลงจากจุดสูงสุดล่าสุดที่ 260 ดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 226.81 ดอลลาร์สหรัฐ หากแนวต้านนี้หลุด ช่องว่างระหว้่งราคาอาจเปิดทางให้ราคาขยับขึ้นไปที่ 170 ดอลลาร์สหรัฐ
แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ (NYSE: AMD) เป็นหุ้นที่เว็ดบุช ชื่นชอบ และบริษัทเป็นหนึ่งในหุ้น AI ที่โดดเด่นมาตั้งแต่เดือนตุลาคม
AMD เป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่กระจายตัวหลากหลาย พวกเขาจัดหาฮาร์ดแวร์ให้กับหลายภาคส่วน โดยเฉพาะในกลุ่ม GPU และชิป CPU
AMD มีโมเมนตัมทางการเงินที่แข็งแกร่งในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา พวกเขามีรายได้และกำไรเติบโต 29.94% และ 28.93% ตามลำดับ แนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงรายงานผลประกอบการล่าสุด ซึ่งบริษัทสามารถเอาชนะคาดการณ์นักวิเคราะห์ได้อีกครั้ง
แดนยังคงให้ความสนใจ Palantir (PLTR) ซึ่งเป็นหุ้นเทคโนโลยียอดนิยมประจำปี หุ้นตัวนี้พุ่งขึ้นไปถึงระดับ 200 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หลังจากนั้นราคาก็ตกลงมาอยู่ที่ 163.55 ดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่าตลาดปัจจุบันที่ 386 พันล้านดอลลาร์ Palantir เติบโตขึ้นมากกว่าสองเท่าในปีนี้ เพิ่มขึ้น 120% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
บริษัทที่สามที่แดน ไอฟ์ชื่นชอบคือ Nvidia (NVDA) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเซมิคอนดักเตอร์และมีมูลค่าสูงสุดของโลก ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าตลาด 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และพุ่งขึ้น 1,200% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์กำลังจับตาดูว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปได้หรือไม่หลังเจอกับความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ การประกาศผลประกอบการล่าสุดช่วยหนุนราคาหุ้นและทำให้นักลงทุนทั่วโลกรู้สึกโล่งใจที่ขาขึ้นของ AI จะยังคงดำเนินต่อไป ในไตรมาสที่สาม Nvidia รายงานรายได้ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า บริษัทมีรายได้จากการทำศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้น 66% ในช่วงเวลาดังกล่าว กำไรเพิ่มขึ้น 67% เป็น 1.30 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.26 ดอลลาร์สหรัฐ
การเทขายหุ้นเมื่อเร็วๆ นี้เริ่มลดลง และขณะนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขาขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนรายใหญ่จะตัดสินใจว่าควรจะจัดสรรเงินทุนไปที่ใดในปี 2026


