ในวันที่จะมีการประกาศข้อมูลราคาผู้บริโภคของสวิสเซอร์แลนด์ คู่อัตราแลกเปลี่ยน USDCHF กำลังมองหาโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อไป
กราฟ USDCHF รายวัน
USD/CHF มีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 0.80143 และอาจแตะระดับดังกล่าวได้หากข้อมูลเศรษฐกิจออกมาดีในสัปดาห์นี้
ข้อมูลราคาผู้บริโภคของสวิสฯ จะประกาศในวันพฤหัสบดีเวลา 13:30 น. ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้ USDCHF เคลื่อนไหว ตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.3% หลังจาก 0.2% ในเดือนที่แล้ว ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นดูไม่น่าจะเป็นไปได้ และตัวเลขที่ต่ำลงอาจกดดันให้ธนาคารกลางพิจารณาทบทวนมาตรการล่าสุดในการรับมือกับอัตราดอกเบี้ยติดลบ
ธนาคารกลางสวิสยังคงอัตราดอกเบี้ยหลักไว้ที่ 0% แต่ผู้ว่าการธนาคารกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยติดลบไม่น่าจะกลับมาอีกในเร็วๆ นี้
“ปัจจุบัน ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ เป็นความเสี่ยงกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของสวิสฯ ในระยะสั้นที่ใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ตาม การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสวิสฯ ลงจนติดลบไม่น่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้” แม็กซิม บอตเทอรอง นักเศรษฐศาสตร์ของ UBS กล่าว “แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบน่าจะช่วยลดแรงกดดันด้านค่าเงินฟรังก์สวิสที่แข็งค่าขึ้น แต่เราไม่เชื่อว่าจะทำให้ค่าเงินฟรังก์สวิสอ่อนค่าลงอย่างมากจนสามารถชดเชยภาษีนำเข้าได้” เขากล่าวเสริม
เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีกำหนดจะประกาศข้อมูลการจ้างงานล่าสุดในวันศุกร์นี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะช่วงที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานได้ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลจะทำให้ข้อมูลและการอัปเดตอื่นๆ ต้องเลื่อนออกไปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้สั่งปิดหน่วยงานส่วนใหญ่ในวันพุธ เนื่องจากความขัดแย้งอย่างรุนแรงในรัฐสภาทำให้ข้อตกลงด้านเงินทุนล่าช้าออกไป หน่วยงานต่างๆ ยังเตือนด้วยว่าการชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลครั้งที่ 15 นับตั้งแต่ปี 1981 จะทำให้การรายงานข้อมูลการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดจะไม่เกิดขึ้น ระงับการจ่ายเงินเดือนแก่ทหารสหรัฐฯ และนำไปสู่การพักงานพนักงานรัฐบาลกลาง 750,000 คน ซึ่งคิดเป็นค่าใช้จ่ายวันละ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เรย์ ดาลิโอ เจ้าของกองทุนเฮดจ์ฟันด์มหาเศรษฐี กล่าวว่า สหรัฐฯ อาจกำลังเข้าใกล้ “จุดเปลี่ยน” เกี่ยวกับเรื่องหนี้สิน
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดาลิโอตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐฯ จะใช้จ่ายประมาณ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ และมีรายได้เพียง 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการจ่ายดอกเบี้ยและการต่ออายุหนี้ “นั่นหมายความว่าคุณต้องขายหนี้มูลค่า 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ” เขากล่าวเสริมในงาน FutureChina Forum ที่สิงคโปร์
“ตลาดโลกไม่ได้มีอุปสงค์ในหนี้ประเภทเดียวกันนี้ และนั่นทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน” เขากล่าว
