หัลงความวุ่นวายเรื่องภาษีที่ดูเหมือนจะจบลงได้ทำให้ขาขึ้นของราคาทองคำก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าจะปรับฐานลดลงมา

ราคา XAUUSD ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดก่อนหน้านี้เหนือ 3,400 ดอลลาร์ ทำให้ทองคำต้องหาผู้ซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงการย่อตัวลงอีก ทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ แต่หากราคาปรับตัวลง ทองคำจะปรับตัวลงกลับไปที่ 3,000 ดอลลาร์
ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงสุดจากกระแสเงินไหลเข้าลงทุนใน ETF กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากทองคำแท่งรายงานการไหลเข้ารายเดือนสูงสุดตั้งแต่ปี 2022 ในเดือนเมษายนสภาทองคำโลก (WGC) รายงานว่า เดือนนี้สิ้นสุดด้วยปริมาณ 3,561 ตันที่ถูกล็อกไว้ใน ETF หลังจากการเพิ่มขึ้น 115 ตันจากเดือนมีนาคม
ปริมาณการถือครองอยู่ที่ระดับที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงการระบาดใหญ่ในเดือนตุลาคม 2020 มูลค่ารวมของเงินหลเข้าในเดือนเมษายนอยู่ที่ 11 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสร้างสถิติใหม่ใหม่ที่ 379 พันล้านดอลลาร์
เอเชียเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก คิดเป็นเกือบสองในสาม (65%) ของยอดรวมทั่วโลก เงินไหลเข้ารายเดือน 7.3 พันล้านดอลลาร์ถือเป็นปริมาณสูงสุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ ทำให้สินทรัพย์ภายใต้การจัดการในภูมิภาคนี้มีมูลค่า 35 พันล้านดอลลาร์ ปริมาณการถือครองทองคำกายภาพเพิ่มขึ้นเป็น 320 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 70 ตันต่อเดือน
การหยุดเก็บภาษีเป็นเวลา 90 วันช่วยหนุนตลาดหุ้น และก็อาจทำให้ทองคำปรับฐานครั้งใหญ่หากมีข้อตกลงระยะยาวระหว่างสหรัฐฯ และจีน
การปรับลดระดับหนี้สหรัฐฯ ของ Moody’s ทำให้ความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น แต่ก็อาจไม่เพียงพอที่จะรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้
“ข้อพิพาททางการค้าที่ดำเนินอยู่กับสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกลัวต่อการเติบโตที่อ่อนแอลง ความผันผวนของตลาดหุ้นที่ทวีความรุนแรงขึ้น และมีการคาดการณ์มากขึ้นถึงการอ่อนค่าของสกุลเงินท้องถิ่น” ยังช่วยกระตุ้นความต้องการทองคำ รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่อ่อนแอลงด้วย” รายงานของ WGC ระบุ
นักเศรษฐศาสตร์ Peter Schiff วิพากษ์วิจารณ์บิตคอยน์อีกครั้ง โดยกล่าวว่า “บิตคอยน์พุ่งสูงขึ้นพร้อมกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เนื่องจากนักลงทุนกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง ทองคำถูกขายออกไปด้วยเหตุผลเดียวกัน แต่บิตคอยน์กลับวิ่งตรงข้ามกับทองคำ”
ความเห็นของเขามีขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์ของ JP Morgan กล่าวว่า BTC อาจปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าทองคำในช่วงครึ่งหลังของปี