อัตราแลกเปลี่ยน EURUSD ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะเดียวกัน ข้อมูลตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ก็ออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
กราฟ EURUSD รายวัน
EURUSD แสดงสัญญาณความแข็งแกร่งที่ระดับ 1.080 แต่กลับร่วงลงมาทดสอบระดับราคา 1.064 ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ที่ระดับราคานี้ ฝั่งขาขึ้นของเงินยูโรจะรู้สึกกดดัน
แม้จะมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่บ้าง แต่นักวิเคราะห์ก็คาดว่า ECB จะมีการหยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราว เพราะผู้มีอำนาจพึ่งออกมาการปรับลดอันดับเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารกลางฯ ตั้งข้อสังเกตว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเยอรมนี (ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซน) เป็นปัจจัยในการปรับลดอันดับ
แต่ผู้กำหนดนโยบายก็ได้ขึ้นดอกเบี้ยมาเป็นครั้งที่ 14 ในรอบ 14 เดือน พร้อมกับหลีกเลี่ยงความกลัวภาวะเงินฝืดและความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม ECB ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นครั้งล่าสุดน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย
ในวันเดียวกันนั้น สหรัฐอเมริกามีการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ออกมาเพิ่มขึ้นเกินคาด ดัชนีราคาผู้ผลิตเป็นการวัดราคาวัตถุดิบที่เข้าสู่ธุรกิจ และนั่นหมายความว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจยังไม่สามารถจบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
นักลงทุนเข้าสู่ตลาดหลังจากข่าวนี้และผลักดันให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดมานานกว่าหนึ่งปี และตลาดเกรงว่าเฟดจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
PPI ของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.7% คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 80% เพราะสินค้าอุปสงค์ขั้นสุดท้ายพุ่งขึ้น 2% ตัวเลข PPI ที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น 20% นั่นจะกลายเป็นปัญหาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพราะว่าราคาน้ำมันยังคงดันสูงขึ้น โดยขยับเหนือ 90 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี
Nathan Casey จาก Evelyn Partners ในสหราชอาณาจักรกล่าวว่า:
“รายงานเงินเฟ้อทั่วไปของเดือนสิงหาคมในสหรัฐฯ พบว่าเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 แรงกดดันด้านราคาที่สูงขึ้นส่วนใหญ่มาจากพลังงาน โดยอัตราเงินเฟ้อรายเดือนสำหรับภาคส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 5.6 เปอร์เซ็นต์
“ปัจจัยผลักดันสำคัญในเรื่องนี้คือราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันที่ปั๊มสูงขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม”
ราคาหุ้นสหรัฐฯ สามารถปรับตัวขึ้นได้ แต่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เพราะเทรดเดอร์ตระหนักได้แล้วว่าข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่เป็นประโยชน์ต่อการหยุดขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อของเฟด