เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คู่ EURUSD ยังสามารถยืนเหนือ 1.1800 ฝั่งผู้ซื้อเริ่มคาดการณ์กันว่าจะได้เห็นความแตกต่างเรื่องนโยบายการเงินระหว่างธนาคารกลางสหรัฐฯ – ยุโรปมากขึ้น
กราฟ EURUSD รายวัน
ถ้อยแถลงล่าสุดของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตอกย้ำจุดยืนที่ต้องการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยระบุว่านโยบายการเงินในปัจจุบัน “ค่อนข้างเข้มงวด” ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับความเสี่ยงด้านลบต่อการจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ตามข้อมูลของ Prime Market Terminal ตลาดประเมินความเป็นไปได้ 91% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในการประชุมเดือนตุลาคม
ขณะเดียวกัน คำกล่าวล่าสุดของคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ว่า “กระบวนการลดภาวะเงินฝืดสิ้นสุดลงแล้ว” ส่งสัญญาณถึงความไม่เต็มใจของธนาคารกลางที่จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม ซึ่งสร้างโอกาสที่ดีต่อการแข็งค่าของเงินยูโร
อุปสรรคทางเศรษฐกิจทวีความรุนแรงขึ้น
ข้อมูลดัชนี PMI เบื้องต้นเผยให้เห็นว่าทั้งสองเศรษฐกิจชะลอตัวคล้ายๆ กัน ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ลดลงจาก 53.0 เหลือ 52.0 ขณะที่ภาคบริการลดลงจาก 54.5 เหลือ 53.9 ยูโรโซนก็เจอแรงกดดันที่คล้ายคลึงกัน ภาคการผลิตหดตัวจาก 50.7 เหลือ 49.5 แม้ว่าภาคบริการจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 51.4
ข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงทำให้เกิดความกังวลก่อนการประกาศตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ และตอกย้ำโอกาสที่เฟดจะผ่อนปรนนโยบายการเงิน
ภาพรวมทางเทคนิค
รูปแบบแท่งเทียนกลืนกินขาขึ้นของ EUR/USD ดันราคาคู่เงินกลับขึ้นไปเหนือระดับ 1.1800 แม้ว่าโมเมนตัมจะยังคงอ่อนแอ แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1.1850 โดยมีจุดสูงสุดประจำปีที่ 1.1918 เป็นเป้าหมาย แนวรับอยู่ที่ 1.1750 ตามด้วย 1.1700 และโซนสำคัญที่ 1.1560 – 1.1574
กระแสการเติบโตที่ชะลอตัว ความแตกต่างด้านนโยบายที่ต่างกัน ทำให้ EUR/USD มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ จนกว่าจะมีปัจจัยกระตุ้นทิศทางที่ชัดเจนขึ้น