การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศจีนในเดือนที่แล้วนั้นเคยออกมาอยู่ที่ 1.8% ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.1% ได้ในการายงานครั้งนี้ นั่นจึงทำให้หุ้นจีนต้องการที่จะได้แนวรับแกร่งๆ เอามาไว้รองรับความเสี่ยงก่อนที่ตัวเลขดังกล่าวจะประกาศออกมา
กราฟ CHI50 รายวัน
ระดับแนวรับสำคัญของดัชนี CHI 50 ที่ใกล้ที่สุดนั้นอยู่ที่ 13,300 ซึ่งอดีตเคยเป็นจุดสูงสุดในช่วงกลางเดือนธันวาคม
สถาบันจัดอันดับ Fitch มีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่แข็งแกร่งมากขึ้น โดยมีการปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตในปี 2023 เป็น 5% เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ที่ 4.1% ก่อนหน้านี้
ธนาคารเพื่อการลงทุน UBS ยังประเมินว่าภาคครัวเรือนของจีนมีเงินออมส่วนเกินรวมประมาณ 4-4.6 ล้านล้านหยวน (590 พันล้านดอลลาร์ถึง 678 พันล้านดอลลาร์)
การปรับคาดการณ์ขึ้นของ Fitch นั้นขึ้นอยู่กับ “ข้อมูลตัวเลขที่ชี้ให้เห็นว่าการบริโภคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก” หลังจากที่รัฐบาลจีนยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิดไปเป็นจำนวนมากแล้ว
ฟิทช์ยังชี้ไปที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคการผลิตและบริการในจีนครั้งล่าสุด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการเติบโตของกิจกรรมทางธุรกิจเพิ่มเติม ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นเป็น 50.1 จากที่เคยทำได้ 47 ในขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคบริการก็เพิ่มขึ้นเป็น 54.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 อนึ่ง ตัวเลข PMI ที่สูงกว่า 50 หมายถึงการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ถ้าต่ำกว่าต่ำกว่า 50 หมายถึงการหดตัว
สี ซินผิงกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ในการปราศรัยเชิงนโยบายครั้งแรกของเขาว่า “การปรับปรุงจีนให้ทันสมัยแบบจีนได้ทำลายความเร็วในการพัฒนาแบบที่ตะวันตกเคยทำไว้ในอีตได้เลย
“ความทันสมัยแบบจีนได้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประเทศกำลังพัฒนาในการก้าวไปสู่ความทันสมัยแบบมีอิสระและให้ทางเลือกใหม่แก่พวกเขา” เขากล่าวเสริม
หุ้นจีนที่ปรับตัวลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ และข้อพิพาทกันระหว่างสหรัฐฯ – จีนในประเด็นของ “บอลลูนที่ถูกกล่าวหาว่าส่งมาสอดแนม” ของจีนอาจทำให้เม็ดเงินลงทุนจากบริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาในจีนแผ่นดินใหญ่ชะลอความเร็วลงเพราะกังวลว่าประเด็นดังกล่าวอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองชาติตึงเครียด