หลังจากที่ราคาน้ำมันสามารถขึ้นทะลุกรอบราคาขาลงระยะยาวขึ้นมาได้ ตอนนี้ก็ดูเหมือนว่านักลงทุนฝั่งขาขึ้นกำลังเตรียมความพร้อมที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปในอนาคต โดยมีแนวต้านแรกที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ $93 ต่อบาร์เรล ก่อนที่จะเปิดทางมุ่งหน้าขึ้นสู่ $100 ต่อบาร์เรลต่อไป
กราฟราคาน้ำมันรายสัปดาห์
หลังจากที่ราคาน้ำมันได้ลงมาพบแนวรับที่จุดต่ำสุดบริเวณ $80 ต่อบาร์เรล ตอนนี้ราคาน้ำมันก็มีมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น และความแข็งแกร่งของขาขึ้นก็ถูกยืนยันด้วยการทะลุกรอบราคาขาลงขึ้นมาได้สำเร็จ
จากข้อมูลของ Goldman Sachs ราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งขึ้นสู่ระดับ 115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในเดือนเมษายนปีหน้า
เจฟฟ์ เคอร์รี กล่าวกับสำนักข่าว CNBC ว่า “ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวขึ้นเพราะในปี 2023 ปริมาณซัพพลายน้ำมันของสหรัฐฯ จะมีอยู่อย่างจำกัด เพราะในไม่ช้าสหรัฐฯ ก็จะไม่สามารถดึงน้ำมันออกจากคลังน้ำมันสำรองออกมาใช้ได้อีกต่อไป ซึ่งสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กับความตึงเครียดด้านพลังงานระหว่างรัสเซีย-ยุโรปในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ การขาดการขุดเจาะหินน้ำมันออกมาใช้ทำให้การผลิตหินดินดานของสหรัฐฯ อยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลว่าทำไมราคาน้ำมันดิบทั้งหมดนั้นจะไม่ปรับตัวพุ่งขึ้น”
“ในความเห็นของผม เป้าหมายที่ราคาน้ำมันมีโอกาสไปถึงในไตรมาสแรกคือ $115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การลดกำลังการผลิตทำให้กลุ่ม OPEC+ มี “ทางเลือก” ที่อาจช่วยเพิ่มอุปทานได้ หากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างไม่คาดคิดภายในเดือนเมษายน” – เคอร์รี่กล่าวเสริม
“แรงจูงใจในการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกคือความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผมขอเตือนคุณว่า 90% ของซีอีโอในอเมริกานั้นเห็นด้วยกับกลุ่มโอเปก นี่ไม่ใช่การคาดการณ์กรณีศึกษาที่มี และพวกเขาก็ถูกคาดหวังจากประชาคมโลกว่าควรที่จะเพิ่มการผลิต” เคอร์รี่กล่าวปิดท้าย
ราคาน้ำมัน Brent และ WTI สิ้นสุดการปรับตัวขึ้นในเดือนตุลาคม ซึ่งไม่นานหลังจากการปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โอเปกกล่าวว่าพวกเขาจะลดการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (BPD)
ราคาน้ำมันจะได้รับแรงหนุนจากผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพุธ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 bps แต่หลังจากนั้นแล้ว อาจส่งสัญญาณการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
จุดสูงสุดของราคาน้ำมันก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 120 ดอลลาร์ ระดับราคาดังกล่าวอาจกลายเป็นหมุดหมายของขาขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า