เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งผลให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบสี่ปี การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด และเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่ธนาคารกลางสหรัฐได้บอกใบ้ไว้ก่อนหน้านี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวหลังการประชุมว่าเฟดไม่มีแผนชัดเจนสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน เขากล่าวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อจากนี้จะขึ้นอยู่กับอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เฟดสามารถกระชับนโยบายการเงินเพื่อให้นโยบายการเงินมีความยืดหยุ่นในอนาคต
นักลงทุนต่างสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เนื่องจากพาวเวลล์ไม่ได้อธิบายกำหนดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจน และไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของเฟด ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับ 99 สู่ระดับ 98 และแตะระดับต่ำสุดที่ 97.72 จุด ธนาคารกลางสหรัฐไม่ได้ให้สัญญาณที่ชัดเจนว่าจะยังคงทำนโยบายการเงินให้ตึงตัวต่อไปได้หรือไม่ ดังนั้น หากจะคาดการณ์ทิศทางของการประชุมอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปได้ นักลงทุนจึงต้องรอดูผลการดำเนินงานของข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ครั้งถัดๆ ไป สัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญได้แก่ อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ, PMI เดือนมีนาคม และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
GBPUSD กับเส้นทางขึ้นต่อไปยัง 1.3267
กราฟ USD/JPY ได้ปรับตัวขึ้นมาเป็นเวลาสองสัปดาห์ติดต่อกัน ในที่สุดก็สามารถทำจุดสูงสุดได้ที่ 119 และนับเป็นจุดสูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง ขาขึ้นครั้งนี้เกิดจากการที่อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ตึงตัวขึ้น ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับนโยบายผ่อนคลายการเงินเป็นพิเศษของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง
จากการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐาน การเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นนั้นตามาหลังยุโรปและสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดญี่ปุ่นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจช้าลง นั่นจึงเป้นเหตุผลให้ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังคงรักษานโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษเอาไว้ นโยบายดังกล่าวสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของญี่ปุ่น แต่ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อค่าเงินเยน หากความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียรุนแรงขึ้น ความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของรัสเซียที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง และเงินทุนอาจไหลเข้าสู่เงินเยนในฐานะสินทรัพย์สำรองปลอดภัย ดังนั้น จึงยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะคาดหวังให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค คู่กราฟ USD/JPY วิ่งอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วันเทียบเป็นระดับราคา 118.82 และ 118.62 ในกราฟ 4 ชั่วโมง โดยมีระดับเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 120.15 หรือ 120.63 โดยมีแนวรับอยู่ที่ 117.27
สำหรับ GBP นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับการรายงานตัวเลข CPl ในเดือนกุมภาพันธ์ และ PPl ที่จะเปิดเผยข้อมูลตัวเลขในวันพุธ ในคืนเดียวกันนั้น ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะมีแถลงการเกี่ยวกับงบประมาณประจำปี ซึ่งรวมถึงนโยบายการเงินของธนาคาร ถ้อยแถลงดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนของเงินปอนด์ ในทางเทคนิค GBP/USD หลุดเส้น MA 10 วันที่ 1.3096 ขึ้นไปแล้ว และกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดในสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.3193 หากเงินปอนด์ยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายต่อไปจะเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันที่ 1.3267 หากการเจรจาสันติภาพยูเครน-รัสเซียบรรลุผลสำเร็จ จนทำให้ความเสี่ยงลดลง สกุลเงินยุโรปคาดว่าจะเพิ่มขึ้น และคู่เงิน GBP/USD อาจทดสอบระดับราคา 1.3400 และเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 สัปดาห์ได้