ดูเหมือนว่าตอนนี้คู่กราฟ EURGBP ได้ลงมาเจอกับแนวรับเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นสำคัญ แต่จะพาราคาขึ้นต่อไปได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่างเช่นรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) ของเยอรมันและยูโรโซน ซึ่งจะประกาศในวันอังคาร ส่วนวันพุธนี้ก็จะมีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรและยุโรป
กราฟ EURGBP รายวัน
จากรูปจะเห็นว่า EURGBP ได้ลงมาเจอกับแรงหนุนขาขึ้นที่ระดับ 0.8600 และตอนนี้กำลังรอข้อมูลรายงานตัวเลขเศรษฐกิจอยู่อยู่
สถานการณ์ในสหราชอาณาจักรตอนนี้ นายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่กำลังพยายามที่จะรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลหลังจากก่อความวุ่นวายในตลาดลงทุนเมื่อไม่นานมานี้ ลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นแรงกดดันให้กับสกุลเงินปอนด์ในช่วงเวลาที่รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรมาถึงอีกด้วย
เจเรอมี่ ฮันต์ (Jeremy Hunt) รมต.คลังใหม่ป้ายแดงประกาศว่าเขาได้ยกเลิกนโยบายเรียกความเชื่อมั่นของรัฐบาล ที่ต้องการจะลดภาษี “เกือบทั้งหมด” ที่ประกาศโดยรัฐบาลเมื่อเดือนที่แล้ว นายฮันต์กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานประจำปีสูงสุด 2,500 ปอนด์สำหรับภาคครัวเรือนที่วางไว้จะถูกปรับลดขนาดลง ซึ่งจะดำเนินนโยบายนี้ไปจนถึงเดือนเมษายปี 2023 “ซึ่งจะทำให้ผู้เสียภาษีมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าที่วางแผนไว้อย่างมาก” อีกหนึ่งนโยบายที่ถูกเปลี่ยนคือการลดหย่อนภาษีเงินได้ ที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าอัตราลดหย่อนภาษีจะยังคงอยู่ที่ 20p และยัง“ไม่มีนโยบายทางเศรษฐกิจไหนที่ถูกตัดออกจากความเป็นไปได้”
อังกฤษจะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในวันพุธ ตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่จะออกมานั้นอาจจะกลับขึ้นไปที่ 10% หลังจากเมื่อเดือนที่แล้วปรับตัวลดลงมาเป็น 9.9% จาก 10.1% ในเดือนก่อนหน้านั้น หลังจากนั้นจะเป็นการรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสำหรับยูโรโซน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 4.3% เป็น 4.8% ซึ่งอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางยุโรปต้องเน้นย้ำถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีกล่าวว่า “นโยบายการคลังที่ พวกเขามีอาจทำให้สามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยในยุโรปได้โดยไม่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ หลังจากฤดูหนาวนี้ เราเชื่อว่าราคาก๊าซในตลาดโลกจะลดลง”
นักลงทุนบางคนในตลาดเชื่อว่ายุโรปยังมีก๊าซเพียงพอสำหรับฤดูหนาว แต่คาดการณ์ว่าในปีหน้าอาจจะแย่กว่านี้ รัฐบาลต่างๆ ในยุโรปสามารถหาก๊าซธรรมชาติใต้ดินสำรองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูหนาวได้สำเร็จ ในสัปดาห์นี้ เยอรมนีสามารถเติมก๊าซสำรองได้มากถึง 95% ก่อนกำหนดที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้สองสัปดาห์ ปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองในยูโรโซนก็เพิ่มขึ้นมาเกือบ 92% เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าที่เก็บก๊าซในยุโรปถูกการออกแบบให้สำหรับใช้งานได้ไม่กี่เดือนเท่านั้น ไม่ว่าฤดูหนาวจะหนาวหรืออบอุ่นขึ้น ก็ยังคงจะได้รับผลกระทบจากการตัดท่อส่งพลังงานจากรัสเซีย และตอนนี้ยุโรปก็ยังไม่มีโครงการใหม่ที่จะสร้างคลังพลังงานยุคใหม่เพิ่มขึ้นมาในปีหน้า ประกอบกับการแข่งขันที่ต้องแย่งพลังงานมาจากตลาดเอเชีย ซึ่งจะทำให้วิกฤตพลังงานของยุโรปในปีหน้าดูเหมือนว่าจะเลวร้ายลง
นักวิเคราะห์ Tatiana Mitrova จากศูนย์นโยบายพลังงานของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียกล่าวว่า “เป็นไปได้มากว่าก๊าซทั้งหมดจากที่เก็บไว้ในชั้นใต้ดินจะถูกใช้ภายในสิ้นฤดูร้อนในฤดูใบไม้ผลิ และยุโรปอาจไม่สามารถหาพลังงานสำรองกลับมาใส่เข้าไปในคลังสะสมพลังงานได้ในปี 2023”
“ฉันกล้ารับประกันได้ว่าปีหน้าจะแย่กว่านี้” เธอกล่าวเสริม “ฉันเกรงว่าปีหน้ามันจะเป็นปีที่ยากลำบากจริงๆ”