ในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ตลาดลงทุนเอเชียเปิดทำการ สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับสองอีเทอเรียม (Ethereum) ต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในรอบสองปี ราคาซื้อขายของอีเทอเรียมตกลงมากถึง $ 1300 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบสองปี แม้ว่านักลงทุนฝั่งขาขึ้นและเหล่าผู้ศรัทธาทั้งหลายต่างกำลังต่อสู้เพื่อปกป้องระดับแนวรับนี้ แต่นักลงทุนต่างก็รู้ดีถึงชะตากรรมของเหรียญที่อาจปรับตัวลดลงต่ำมากกว่าเดิม จากปัจจัยแวดล้อมที่แทบจะไม่มีข่าวดีใดมาสนับสนุนตลาดคริปโตฯ ในช่วงเวลานี้ได้เลย
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ราคาอีเทอเรียมร่วงลงได้มากขนาดนี้?
มีสองสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาอีเทอเรียมในตลาดเอเชียวันนี้ลดลงเป็นอย่างมาก ดังนี้
อุปสงค์ที่ลดลงอันเนื่องมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก
สาเหตุหลักของอีเทอเรียมขาลงคือการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนทิ้งสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง แน่นอนว่าอีเทอเรียมและสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ ถือเป็นหนึ่งในนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ตลาดคริปโตฯ แต่ตลาดหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ปรับตัวลดลง ดังนั้นตลาดจึงอยู่ในโหมดหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และหันไปถือครองดอลลาร์สหรัฐหรือเงินสดเอาไว้ก่อน
การ depeg ของ FUD ที่ตรึงกับสกุลเงิน Ethereum
การลดลงอย่างมากของอีเทอเรียมในวันนี้ได้ทำให้ FUD เกิดการ depeg กับ Ethereum Staked เดิมทีควรจะซื้อขายในอัตราส่วน 1:1 กับอีเทอเรียม แต่ตอนนี้กลับค่อยๆ สูญเสียมูลค่าที่ตรึงเอาไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รายงานที่เผยแพร่โดย CoinGape เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วระบุว่า ETH เริ่มเกิดการ depeg มาตั้งแต่ช่วงปลายวันพฤหัสบดี และมีราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาสปอต สิ่งนี้เกิดจากการเทขายอย่างกะทันหัน 1.5 พันล้านดอลลาร์โดย Alameda Capital ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือครองอีเทอเรียมรายใหญ่ที่สุด ส่งผลให้ราคา Staked ETH ลดลงเมื่อเทียบกับต้นทุนของอีเทอเรียมสปอต และยังไม่กลับสู่ราคาปกติในปัจจุบัน นักลงทุนจำนวนมากตื่นตระหนกในการขายเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับเหรียญ Luna เมื่อเดือนที่แล้ว
Ethereum ยังคงเป็นการลงทุนคริปโตฯ ที่ดีหรือไม่?
อีเทอเรียมเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่มีส่วนสำคัญกับการเติบโตของวงการคริปโตฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถ้าไม่นับบิทคอยน์ที่ต้องการเป็นสกุลเงินกลางของโลก อีเทอเรียมได้ก่อให้เกิดโครงการที่สร้างสรรค์มากมายเช่น DeFi GameFi เป็นต้น เครือข่ายของอีเทอเรียมแข็งแกร่งมากและมีสัญญาอัจฉริยะที่จะดึงข้อมูลหรือจัดการบริการระบบ และยากที่จะมีใครมาเทียบ ดังนั้นนักวิเคราะห์หลายคนจึงมองว่ายังมีโอกาสที่อีเทอเรียมจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง