หุ้นเทสลา (NYSE:TSLA) ยังคงต้องเผชิญกับแรงกดดันต่อไป ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องนโยบายภาษีและความเชื่อมั่นในแบรนด์เพราะเจ้าของอย่างอีลอน มัสก์เข้าไปยุ่งกับการเมืองมากเกินไป
กราฟ TSLA รายวัน
Tesla ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากระดับราคาที่เคยทำได้ในช่วงชัยชนะการเลือกตั้งของทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอีกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพราะความกลัวเรื่องภาษีศุลกากรลดลง
การประท้วงที่โชว์รูม Tesla ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหาย ขณะเดียวกัน ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
ราคาหุ้นสามารถพุ่งขึ้นได้ประมาณ 5% หลังจากที่ Musk กล่าวว่าเขาจะถอนตัวจากกรมสร้างประสิทธิภาพให้รัฐบาล (DOGE) เพื่อให้ความสำคัญไปที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาพื้นฐานยังคงอยู่ เนื่องจากข้อมูลล่าสุดจากรายการรถมือสองแสดงให้เห็นว่ามูลค่าการขายต่อของ Tesla ลดลงสองหลักในเดือนมีนาคม ซึ่งน้อยกว่าแบรนด์อื่นๆ มาก Model S เป็นผู้นำขาลงนี้ด้วยการลดลง 17.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามมาด้วย Model Y ที่ 13.1%, Model 3 ที่ 10.9% และ Model X ที่ลดลง 7.3%
บริษัทมีแผนที่จะปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่นต่างๆ แต่ราคารถมือสองกลับลดลง เนื่องจากเจ้าของรถไม่ต้องการเป็นเป้าหมายของผู้ประท้วง บริษัทมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 834 พันล้านดอลลาร์ และ Tesla ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า นอกเหนือจากรถยนต์แล้ว บริษัทยังนำเสนอโซลูชันการจัดเก็บพลังงานและดำเนินการเครือข่ายชาร์จเร็วที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสถานี Supercharger มากกว่า 7,000 แห่งและศูนย์ขาย 1,359 แห่งทั่วโลก
ปัจจุบัน Tesla กำลังพัฒนาโรโบแท็กซี่ ซึ่งเป็นยานยนต์ไร้คนขับที่หลายๆคนรอคอย บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโรโบแท็กซี่คันแรกในเมืองออสตินภายในเดือนมิถุนายน 2025 โดยจะติดตั้งโรโบแท็กซี่รุ่น Y ที่ขับเคลื่อนเองได้พร้อมคนขับเพื่อความปลอดภัย หากประสบความสำเร็จ บริษัทอาจลดต้นทุนการเรียกรถโดยสารและเพิ่มรายได้และมูลค่าของ Tesla ได้อย่างมาก
ยอดขายที่ชะลอตัวของ Tesla เป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากยอดส่งมอบรถยนต์ในยุโรปลดลง 49% เหลือเพียง 19,046 คันในช่วงสองเดือนแรกของปี 2025 ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ สาเหตุนั้นเพราะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมเติบโตขึ้น 24% ในช่วงเวลาเดียวกัน นักวิเคราะห์กล่าวโทษว่ารถยนต์รุ่น Y เป็นอะไรที่ล้าสมัย และการลดราคาลงอย่างหนักจากคู่แข่งอย่าง Volkswagen และ Stellantis
สถานการณ์ในจีนเลวร้ายลงหลังจากที่ BYD เติบโตอย่างรวดเร็ว รุ่นเทสลาที่ถูกกว่าและข้อได้เปรียบในท้องถิ่นทำให้ Tesla มีส่วนแบ่งการตลาดที่เล็กลง Tesla เคยมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนมากกว่า 20% แต่กำลังสูญเสียส่วนแบ่งอย่างรวดเร็ว จนกว่าจะมี Tesla ที่ราคาถูกลง คู่แข่งในประเทศก็ยังคงสามารถทำกำไรได้ต่อไป
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลกยังคงอ่อนแอ แต่ Tesla ยังคงรักษามูลค่าราคาที่สูงไว้ได้ เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจกับการเปิดตัว Robotaxi ในปีนี้