หลังจากร่วงลงมาวิ่งต่ำกว่า $1,700 ก็สามารถพูดได้แล้วว่าสถานการณ์ของราคาทองคำนั้นอยู่ในภาวะวิกฤต ก่อนหน้านี้ เราเคยให้ข้อมูลไปแล้วว่าหากทองคำสามารถลงมาวิ่งต่ำกว่า $1,700 แนวรับถัดไปที่สามารถพิจารณาได้เลยคือ $1,400
กราฟ XAUUSD รายวัน
ทองคำกำลังทรมานจากความแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนกำลังมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ภายในโลกการลงทุนที่มีธีมการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจากทั่วทุกมุมโลก ทองคำถือเป็นเป็นดัชนีสำคัญที่ใช้วัดอ้างอิงการเติบโตของเงินเฟ้อได้ และที่ผ่านมาทองคำก็สามารถยืนเหนือ 1,700 ดอลลาร์ได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อราคาสามารถวิ่งลงมาจนหลุดแนวรับหลักนี้ได้ ก็ได้เห็นว่ายังมีพื้นที่ให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวลดลงได้ต่อ
ตลาดกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางสำคัญในสัปดาห์นี้ Riksbank ของสวีเดนประเดิมเวทีด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างสุดเซอร์ไพรส์ในสัปดาห์นี้ ควบคู่ไปกับชัยชนะของพรรคฝ่ายขวาในการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ในวันอังคารที่ระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.1% ดับฝันการฟื้นตัวตัวของตลาดหลังจากในเดือนกรกฎาคมตัวเลขเงินเฟ้อได้ลดลงมาจากจุดสูงสุดแล้ว ข้อมูลตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนสิงหาคมได้จะลดลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคกลับเพิ่มขึ้น 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการ
เดนนิส คิสเลอร์ รองประธานอาวุโสของ Bok Financial Securities ให้ความเห็นว่า
“แรงกดดันทางเศรษฐกิจมหภาคจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ได้เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งดูเหมือนว่าจะกดดันราคาน้ำมันดิบไปด้วย ในอนาคตอันใกล้ ยังมีความเสี่ยงที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยและจะมีการปล่อยสำรองปิโตรเลียมเชิงกลยุทธ์เพิ่มเติมจนถึงเดือนพฤศจิกายน”
ก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับดอกเบี้ยนโยบายของบรรดาธนาคารกลางฯ ชั้นนำ Riksbank ของสวีเดนเปิดหมัดสู้กับเงินเฟ้อด้วยการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 100 bps ทำให้อัตราดอกเบี้ยรวมของประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1.75%
การตัดสินใจดังกล่าวทำให้ตลาดลงทุนกลัวว่าเฟดและธนาคารกลางอื่นๆ จะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง นักลงทุนจึงพยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอย่างกะทันหัน อย่างที่เห็นได้ว่าตลาดฟิวเจอร์สของสหรัฐฯ เริ่มมีการขายสัญญาที่ถืออยู่ในมือออกไป เพื่อปรับราคาใหม่หลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงกดดันเงินยูโรให้วิ่งอยู่ต่ำกว่า $1 เมื่อเทียบมูลค่ากัน