กราฟ EURUSD ปรับตัวลดลงมาจากแนวต้าน 1.07 และอาจปรับตัวลดลงต่อจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ตอนนี้นักลงทุนเริ่มประเมินแล้วว่าเงินดอลลาร์สหรัฐอาจแข็งค่าต่อหลังจากได้ทราบรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
กราฟ EURUSD รายสัปดาห์
ระดับแนวรับแรกสำหรับ EURUSD อยู่ที่ 1.04 ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 โดยมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อไปที่ระดับราคา 1.02
ข้อมูลตัวเลข PMI ภาคการผลิตจาก ISM สหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาในวันพุธมีความใกล้เคียงกับที่คาดไว้ ภาคการผลิตของสหรัฐฯ มีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าเล็กน้อย สถาบันบริหารจัดการอุปทาน (ISM) กล่าวว่า PMI ภาคการผลิตลดลงสู่ 48.4 ในเดือนที่แล้วเทียบจาก 49.0 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งชะลอตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน
ตัวเลข PMI นี้อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 ซึ่งตอนนั้นตัวเลขนี้เคยออกมาต่ำกว่า 48.7 ISM กล่าวว่าข้อมูลนี้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในภาพรวม อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งและสามารถรองรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ นั่นทำให้มีโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมีน้อย ค่า PMI ที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิต ซึ่งภาคการผลิตคิดเป็น 11.3% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าข้อมูลภาคการผลิตจะลดลงเหลือ 48.5
ธนาคารกลางสหรัฐฯ อยู่ในช่วงเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เฟดพยายามที่จะจัดการกับอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเงินเฟ้อ ประเด็นสำคัญในวันพุธคือการเปิดเผยข้อมูลรายงานการประชุม FOMC ในเดือนธันวาคม นักลงทุนจะให้ความสนใจกับรายงานนี้เพื่อหาความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือเฟดวางแผนไว้อย่างชัดเจนว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไป
รายงานการประชุมเช่นนี้จะหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งแกร่งแม้จะมีธนาคารกลางยุโรปที่มีเป้าหมายที่จะไล่ตามอัตราดอกเบี้ยของเฟดให้ทัน ข้อมูลเงินเฟ้อแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของฝรั่งเศสลดลงดีกว่าที่คาดไว้ ซึ่งช่วยให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นด้วย