แม้ว่าเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะดีดกลับขึ้นมาอย่างรุนแรงหลังจากการประกาศตัวเลขเงินเฟ้ออเมริกา แต่ราคาทองคำกลับล้มเหลวที่จะทำเช่นนั้นได้
กราฟราคาทองคำรายสัปดาห์
ราคาทองคำยังคงวิ่งอยู่ต่ำกว่า 1,700 ดอลลาร์ และตลาดหมียังคงเป็นฝ่ายคุมเทรนด์
หนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่กดดันให้ราคาทองคำลงต่ำคือการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง 0.70% กลับเกิดขึ้นพร้อมกับราคาทองคำที่ร่วงลงเช่นเดียวกัน ทองคำได้รับผลกระทบจากความเชื่อของตลาดที่ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในสหรัฐฯ แต่การที่ตลาดหุ้นปรับตัวครั้งนี้มาจากนักลงทุนในตลาดออปชันและการ short covering
วันนี้ สหรัฐอเมริกาจะมีการประกาศข้อมูลตัวเลขยอดค้าปลีกและความเชื่อมั่นผู้บริโภค หากตลาดหุ้นยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวาน อาจช่วยพาราคาทองคำปรับตัวกลับขึ้นไปทดสอบระดับแนวต้าน 1,700 ดอลลาร์ได้ หลังจากนั้นแล้ว ราคาทองคำอาจทำได้เพียงประคองตัวอยู่เหนือ $1,700 จนกว่าจะมีสัญญาณที่ชัดเจนว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังลดช้าลง ทองคำยังมีโอกาสที่จะปรับตัวได้หากปัญหาในยูเครนรุนแรงขึ้น
การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐได้สร้างแรงกดดันทองคำก็จริง แต่ก็ยังน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ตามรายงานของสภาทองคำโลก ตั้งแต่ต้นปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน ทองคำได้ปรับตัวลดลงมาแล้ว 7.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แต่เพิ่มขึ้น 16.4% เมื่อเทียบกับเงินเยนญี่ปุ่นและ 12.3% เมื่อเทียบกับปอนด์อังกฤษ และเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับลีราตุรกี จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่าในปี 2022 นี้ราคาทองคำยังทำผลงานได้ดีกว่าสกุลเงินเหล่านี้
สมมุติคำนวณคร่าวๆ ว่าทองคำในปีนี้ลดลงเพียง 7% เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วจะเห็นว่าทองคำยังสามารถต้านแรงกดดันของเศรษฐกิจโลกเอาไว้ได้ดี เมื่อเทียบกับปัญหาอย่างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลงในอินเดียและจีน อย่างไรก็ตาม ความผันผวนในตลาดพันธบัตรสหราชอาณาจักรและแรงกดดันจากนานาประเทศที่มีต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจทำให้เฟดต้องหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในไตรมาสที่สี่ของปี 2022