คู่กราฟ EURAUD กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบความแข็งแกร่งของแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 50 ในกราฟรายวัน ที่ประคองเทรนด์ขาขึ้นมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
กราฟ EURAUD รายวัน
คู่กราฟ EURAUD เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.63 นักลงทุนจากทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้กันเพื่อตัดสินว่าสุดท้ายแล้วจะดีดตัวกลับขึ้นไป หรือปรับฐานรอการปรับตัวลดลง
ก่อนเซสชันเอเชียในวันพุธเปิดได้มีการประกาศข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเช่นดัชนีค่าจ้างจากออสเตรเลีย และจะมีการประกาศอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของยุโรป อย่างไรก็ตาม ข้อมูลตัวเลขครั้งนี้อาจไม่แตกต่างจาก 5.6% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ การจ้างงานในออสเตรเลียที่จะมีการประกาศนั้นคาดว่าจะลดลงเหลือ 25,000 ตำแหน่ง ลดลงจากที่เคยเพิ่มขึ้นจาก 53,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า
นักวิเคราะห์ของ ING กำลังเฝ้าดูสกุลเงิน AUD ในสัปดาห์นี้ให้ความเห็นว่า:
“รายงานการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เพิ่มความเป็นไปได้ว่าอาจมีการดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดมากขึ้นหากจำเป็น และวันนี้เราจะเห็นดัชนีราคาค่าจ้างในไตรมาสแรกในออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 3.3% เป็น 3.6% YoY ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ตลาดเดิมพันว่า RBA จะทำนโยบายการเงินเข้มงวดขึ้นอีกและหนุนให้ AUD ในขณะนี้แข็งค่าขึ้น ตลาดไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก”
“ในวันพฤหัสบดีนี้ จะมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในเดือนเมษายน และอาจจะทำให้สามารถยืนยันได้ว่าตลาดแรงงานที่ยังคงตึงตัวอยู่มาก”
ข้อมูลตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก Westpac นั้นออกมาน่าผิดหวัง ตัวเลขที่ออกมานั้นลดลงเหลือ 79 หลังจากที่เดือนที่แล้วเคยกระโดดขึ้นที่ 85.8 นักลงทุนเคยมีความหวังว่าตัวเลขความเชื่อมั่นนี้จะสามารถทำลายจุดสูงสุดของเดือนมิถุนายนปีที่แล้วได้ ธนาคารกลางออสเตรเลียสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตลาดด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในไตรมาสที่แล้ว นั่นจึงทำให้นักลงทุนยังคงคอยดูข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่อาจสร้างความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ข้อมูลการจ้างงานที่ลดลง แต่การปรับขึ้นค่าจ้างยังคงเกิดขึ้นต่อไป
สำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย (ABS) ประกาศว่าดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 7% ในปีนี้ที่นับมาจนถึงเดือนมีนาคม ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียนายฟิลิป โลว์ (Philip Lowe) กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อเป็นสาเหตุของการที่จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
“อัตราเงินเฟ้อในออสเตรเลียผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่ตัวเลขที่ 7% ยังสูงเกินไป และคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งก่อนที่เงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย” เขากล่าว
ประโยคหนึ่งจากรายงานการประชุมระบุว่า “คณะกรรมการยังเห็นพ้องกันว่าอาจจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แต่จะขึ้นอยู่กับว่าเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของประเทศในอนาคตจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด”