เป็นที่ทราบกันดีว่าในทุกๆ ครั้งที่ช่วงเวลาของการรายงานผลประกอบการบริษัทเอกชนมาถึง หุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐฯ จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รายงานผลประกอบการก่อน ซึ่งหนึ่งในธนาคารชื่อดังที่มีคิวรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ในวันศุกร์นี้คือธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา ความน่าสนใจอยู่ที่รายงานผลประกอบนี้จะออกมาเป็นเช่นไร และราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดหลังจากตลาดได้ทราบตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ไปก่อนหน้านั้นแล้ว
กราฟ BAC รายวัน
ราคาหุ้น BAC มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $34.71 ซึ่งเป็นแนวต้านของราคาหุ้น รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 จะเป็นตัวกำหนดว่าเส้นทางของหุ้น BAC ต่อไปนี้จะขึ้นหรือว่าลง และเทรดเดอร์สามารถเทรดตามเทรนด์ได้
แบงก์ ออฟ อเมริกา (Bank of America) เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของสหรัฐฯ หากพิจารณาจากสินทรัพย์ ซึ่งการรายงานผลประกอบการครั้งนี้ BofA อาจจะมีรายได้สุทธิลดลงในไตรมาสที่สี่ อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นกระทบกับความต้องการของผู้บริโภค และข้อตกลงเฉพาะที่ธนาคารกลางฯ มีต่อธนาคารพาณิชย์ก็หมดลง BofA คาดว่ารายได้สุทธิลดลง 9% เป็น 6.5 พันล้านดอลลาร์จากปีก่อนหน้า แต่รายรับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 9% เป็น 24 พันล้านดอลลาร์เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ธนาคารสามารถเรียกเก็บเงินกู้ยืมได้มากขึ้น แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์อาจมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการเพิ่มรายได้จากดอกเบี้ยสุทธิในอีกหลายเดือนข้างหน้าเพราะธนาคารกลางสหรัฐเริ่มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดอุปสรรคในวงการธนาคารก่อนจะถึงจุดสูงสุดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
การที่เก็บดอกเบี้ยจากผู้กู้ได้น้อยลงมันไม่ใช่ข่าวดีสำหรับธนาคารอยู่แล้ว แต่ธนาคารต่างๆ ได้จัดสรรเงินก้อนโตไว้สำหรับสำรองเงินกู้ที่คาดว่าจะเป็นหนี้เสียและปลดพนักงานบางส่วนออก โดยรวมแล้ว Bank of America ถือว่าอยู่ในระดับปานกลางมากกว่าคู่แข่ง พวกเขาพึ่งพาการหมุนเวียนตามธรรมชาติเศรษฐกิจเพื่อลดจำนวนพนักงาน BofA คาดว่าจะเห็นพนักงานลาออกประมาณ 8% ในปี 2023 นี้