การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีค่าส่วนต่างและ CFD เป็นตราสารที่มีความซับซ้อน และมีความเสี่ยงที่จะได้กำไรและขาดทุนอย่างรวดเร็วสูงจากระบบเลเวอเรจ นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ขาดทุนจากการเทรดด้วย CFD ดังนั้นก่อนลงทุน คุณควรพิจารณาก่อนว่าสามารถรับความเสี่ยง ที่มีโอกาสจะขาดทุนจากลงทุนได้หรือไม่

นโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์: ผลกระทบต่อตลาดหุ้นและฟอเร็กซ์ | แนวโน้มการเทรด

นโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์: ผลกระทบต่อตลาดหุ้นและฟอเร็กซ์

ชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024 ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดการเงินแล้ว ในขณะที่นักลงทุนและเทรดเดอร์กำลังวิเคราะห์ผลกระทบจากการกลับมาของทรัมป์หลังวาระแรกในปี 2016 ชัยชนะครั้งนี้ได้ส่งสัญญาณถึงการกลับไปใช้แนวทางสนับสนุนธุรกิจที่เน้นการลดกฎระเบียบ การลดภาษี และนโยบายการค้าที่เน้นการปกป้องการค้าของประเทศ

บทความนี้จะพาคุณสำรวจว่า นโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์จะส่งผลต่อตลาดการเงินที่สำคัญอย่างไร โดยเฉพาะใน ตลาดฟอเร็กซ์ หุ้นสหรัฐ หุ้นทั่วโลก และแนวโน้มเศรษฐกิจในภาพรวม

  1. ผลกระทบต่อตลาดฟอเร็กซ์: ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังชัยชนะของทรัมป์ในปี 2024

หนึ่งในปฏิกิริยาแรกของตลาดหลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในปี 2024 คือการที่ดอลลาร์สหรัฐ (USD) แข็งค่าขึ้นอย่างมากในตลาดโลก

การปรับตัวขึ้นนี้ส่วนใหญ่เกิดจากความคาดหวังต่อนโยบายที่สนับสนุนธุรกิจของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการลดภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบ และมาตรการกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐ

นักลงทุนเชื่อว่านโยบายเหล่านี้จะช่วยเพิ่มผลกำไรของบริษัท กระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเพิ่มอุปสงค์ของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ USD แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เช่น หยวนจีน (CNH), เปโซเม็กซิโก (MXN) และ ยูโร (EUR) สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภายใต้นโยบายการบริหารของทรัมป์

USD แข็งค่า

ความคาดหวังต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งภายใต้ทรัมป์ทำให้ USD มีแนวโน้มได้ประโยชน์ นักลงทุนคาดการณ์ว่านโยบายการค้าหรือการลดภาษีของทรัมป์จะช่วยเพิ่มผลกำไรของบริษัทในสหรัฐฯ และเพิ่มอุปสงค์ของดอลลาร์มากยิ่งขึ้น

หากทรัมป์ดำเนินการตามแผนด้วยการเพิ่มภาษีศุลกากร โดยเฉพาะกับจีน ดอลลาร์สหรัฐอาจแข็งค่าขึ้นอีก ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์จะสามารถใช้ประโยชน์จาก USD ได้ โดยเฉพาะกับ CNY, MXN, และ EUR

เงินหยวนจีน CNH อ่อนค่า

เงินหยวนจีน (USD/CNH) อ่อนค่าลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าที่อาจเกิดขึ้น โดยในช่วงการดำรงตำแหน่งของทรัมป์ก่อนหน้านี้ที่มีการเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีนและการกลับมาของทรัมป์อาจทำให้ความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงอาจมีการเพิ่มภาษีเป็น 60% สำหรับสินค้าจีน

ซึ่งนี่อาจเป็นโอกาสให้เทรดเดอร์เทรดคู่เงิน USD/CNH เพื่อลุ้นทำกำไรจากการอ่อนค่าของหยวนเนื่องจากการยกระดับความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

โอกาสในการเทรด: AUD/USD และ USD/CNY

  1. USD/CNH: จากนโยบายการค้าของทรัมป์และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากสงครามการค้ากับจีน คู่สกุลเงิน USD/CNH น่าจะเป็นตัวเลือกการเทรดที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการแข็งค่าของ USD นโยบายการเพิ่มภาษีและมาตรการปกป้องการค้าของทรัมป์อาจสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินหยวนจีน (CNH) ในขณะที่เพิ่มอุปสงค์ให้กับ USD เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์อาจใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ได้ด้วยการเทรด USD/CNH

  2. AUD/USD: อีกหนึ่งตัวเลือกคือ AUD/USD เนื่องจากดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) มักเป็นตัวแทนทางอ้อมของเงินหยวนจีน (CNH) เศรษฐกิจออสเตรเลียพึ่งพาการส่งออกไปยังจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น แร่เหล็ก ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงมุมมองเศรษฐกิจของจีนอาจส่งผลกระทบต่อ AUD ได้อย่างมาก หากความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนตึงเครียดขึ้น ค่าเงิน AUD มักได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกับ CNY เนื่องจากสกุลเงินทั้งสองได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมการเทรดในวงกว้างและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของโลก

ผลที่เกิดขึ้นตามมาคือ หากนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ทำให้เกิดความผันผวนระหว่างสหรัฐฯ​และจีน คู่ AUD/USD ก็อาจมีความผันผวนที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้หากนโยบายการบริหารของทรัมป์โฟกัสไปที่การเพิ่มผลผลิตด้านพลังงานภายในประเทศ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอาจได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งมีอิทธิพลต่อ AUD/USD มากขึ้นไปอีก

  1. ผลกระทบต่อตลาดหุ้น: นโยบายสนับสนุนธุรกิจของทรัมป์หนุนหุ้นสหรัฐ

หลังจากชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้ง ตลาดหุ้นสหรัฐ ได้ปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายสนับสนุนธุรกิจของเขา เซ็กเตอร์ที่สำคัญ เช่น พลังงาน เทคโนโลยี และการเงิน มีแนวโน้มได้รับประโยชน์อย่างมากจากนโยบายที่มุ่งเน้นการลดกฎระเบียบ การลดภาษี และการสนับสนุนการผลิตพลังงานภายในประเทศ ซึ่งทำให้เกิดมุมมองเชิงบวกที่มากยิ่งขึ้น

หุ้นสหรัฐพุ่งสูงขึ้น

ตลาดหุ้นสหรัฐ เช่น S&P 500 Dow Jones และ Nasdaq ได้ตอบรับชัยชนะของทรัมป์ในเชิงบวก โดยดัชนีต่าง ๆ ได้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ การปรับตัวขึ้นนี้เห็นได้ชัดในเซ็กเตอร์พลังงานและเทคโนโลยีที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากนโยบายของทรัมป์ หุ้นพลังงาน (โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซ) และหุ้นเทคได้เป็นผู้นำในการปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเห็นแนวโน้มในเชิงบวกในอุตสาหกรรมเหล่านี้

เซ็กเตอร์พลังงานปรับตัวขึ้น

การสนับสนุนพลังงานฟอสซิลของทรัมป์ โดยเฉพาะสโลแกนของแคมเปญ “drill, baby, drill” ทำให้บริษัทน้ำมันและก๊าซ เช่น ExxonMobil และ Chevron ปรับตัวขึ้นทันทีหลังการเลือกตั้ง การยกเลิกข้อจำกัดในการผลิตน้ำมันและก๊าซภายในประเทศและการผ่อนคลายกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมได้สร้างสภาวะที่เอื้อต่อบริษัทด้านพลังงาน นอกจากนี้การโฟกัสไปที่ความเป็นอิสระด้านพลังงานและการลดความยุ่งยากด้านกฎระเบียบได้ทำให้หุ้นพลังงานสามารถเติบโต มีผลกำไรที่เพิ่มขึ้น และขยายฐานทรัพยากรภายในประเทศได้

การเติบโตของเซ็กเตอร์เทคโนโลยี

หุ้นของ Tesla พุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเก็งกำไรว่าบริษัทอาจได้ประโยชน์จากการกลับมาของทรัมป์ โดยมีความคาดหวังว่าจะมีการแข่งขันที่ลดลงจากผู้ผลิตรถยนต์ EV รายเล็ก และมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นสำหรับสินค้าจากจีน ซึ่งอาจช่วยให้ Tesla ได้เปรียบ นโยบายสนับสนุนธุรกิจของทรัมป์ เช่น การลดกฎระเบียบและการลดภาษี ยังถูกมองว่าเป็นประโยชน์ต่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งอาจเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและสนับสนุนการลงทุนเพิ่มในการสร้างนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Tesla อาจได้รับผลดีจากกฎระเบียบที่ผ่อนคลายลงเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน

การปรับตัวขึ้นของเซ็กเตอร์การเงิน

หุ้นของ JPMorgan Chase, Goldman Sachs และ Bank of America มีการปรับตัวขึ้นอย่างมาก เช่นเดียวกับดัชนีในภาพรวมที่ครอบคลุมหุ้นของธนาคารยักษ์ใหญ่ หลังจากชัยชนะของทรัมป์ ธนาคารระดับภูมิภาคก็มีการปรับตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากนักลงทุนได้คาดการณ์ถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อเซ็กเตอร์การเงินมากยิ่งขึ้น จุดยืนการลดกฎระเบียบของทรัมป์ถูกมองว่าเป็นแรงสนับสนุนสำคัญสำหรับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้นและเพิ่มการปล่อยสินเชื่อได้ นอกจากนี้ การคาดหวังเกี่ยวกับการลดภาษียังช่วยสนับสนุนมุมมองการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้สูงขึ้น ทำให้ธนาคารเหล่านี้มีความสามารถในการแข่งขันและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

live account thailand

  1. ผลกระทบต่อดัชนี: ดัชนีสหรัฐปรับตัวขึ้นมากกว่าดัชนีทั่วโลก

ในขณะที่หุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นตอบสนองต่อชัยชนะของทรัมป์ ตลาดการเงินทั่วโลกกลับเผชิญกับความท้าทาย นโยบายการค้าของทรัมป์ โดยเฉพาะจุดยืนในเรื่องการค้าและภาษี อาจส่งผลกระทบต่อตลาดนอกสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป จีน และญี่ปุ่น

ดัชนีสหรัฐเทียบกับดัชนีทั่วโลก

ในขณะที่ทรัมป์เดินหน้านโยบาย “America First” หุ้นสหรัฐถูกคาดว่าจะมีผลงานที่ดีกว่าดัชนีทั่วโลกในระยะสั้นถึงระยะกลาง โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับการลดภาษี การลดกฎระเบียบ และการใช้งบประมาณไปกับโครงสร้างพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม ตลาดในยุโรปและเอเชีย ซึ่งอาจมีความเปราะบางต่อสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน หรือภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น อาจมีผลงานที่ด้อยกว่า ประเทศที่พึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ หรือห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก อาจต้องเผชิญกับการเติบโตที่ชะลอตัว ทำให้นักลงทุนหันไปหาความปลอดภัยในสินทรัพย์สหรัฐ สิ่งนี้อาจยิ่งกระตุ้นอุปสงค์ของหุ้นสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ ในขณะที่นโยบายของทรัมป์ได้สร้างปฏิกิริยาที่หลากหลายในระดับโลก

  1. ความตึงเครียดของสงครามทางการค้าภายใต้ทรัมป์

ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งในตลาดโลกคือโอกาสที่สงครามการค้าจะกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐฯ และจีน นโยบายการค้าที่แข็งกร้าวของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มภาษีนำเข้าที่ครอบคลุมสินค้าในต่างประเทศ อาจยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับทั้งจีนและสหภาพยุโรป ข้อเสนอของเขาในการจัดเก็บภาษีนำเข้า 10% ถึง 20% สำหรับสินค้าทุกชนิด รวมถึงสินค้าเป้าหมายอย่างเช่นรถยนต์ อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง

หากทรัมป์ดำเนินมาตรการภาษี 60% สำหรับสินค้าจากจีน มันอาจนำไปสู่การตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีจากจีน ซึ่งจะสร้างความผันผวนในตลาดทั่วโลก สถานการณ์นี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดเกิดใหม่ เช่น เม็กซิโก เกาหลีใต้ และบราซิล ซึ่งพึ่งพาการค้ากับสหรัฐฯ และจีน สหภาพยุโรปก็มีความเปราะบางต่อภาษีของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน และอาจดึง EU เข้าสู่ความขัดแย้งทางการค้าที่กว้างขึ้น

ในช่วงหลัง Brexit สหราชอาณาจักรต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากในการจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้ โดยพิจารณาจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ EU และความเสี่ยงที่จะถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งนี้ การดำเนินนโยบายปกป้องเศรษฐกิจอาจทำให้ตลาดโลกไม่มั่นคง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจขนาดเล็ก และสร้างความเสี่ยงที่ร้ายแรงต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก

  1. โอกาสและความเสี่ยงในการเทรดสำหรับนักลงทุน

แม้มุมมองระยะสั้นต่อหุ้นสหรัฐและค่าเงินดอลลาร์จะเป็นบวก แต่ความเสี่ยงในระยะยาวยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในด้านเงินเฟ้อ หนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น และความไม่แน่นอนทางการค้าทั่วโลก นโยบายสนับสนุนธุรกิจของทรัมป์อาจเป็นแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ผลกระทบในระยะยาวของสงครามการค้าและนโยบายการคลังของเขายังมีความไม่แน่นอน

การลดกฎระเบียบของทรัมป์

การผลักดันให้มีการลดกฎระเบียบในเซ็กเตอร์สำคัญอย่างพลังงาน การเงิน และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องของทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะส่งเสริมโอกาสในการเติบโตและการสร้างนวัตกรรม ด้วยการลดอุปสรรคของระบบราชการและเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงานให้กับธุรกิจ การลดกฎระเบียบสามารถช่วยลดต้นทุนการปฏิบัติตามกฎหมาย เพิ่มประสิทธิผล และกระตุ้นการลงทุน บริษัทในเซ็กเตอร์ต่าง ๆ เช่น น้ำมันและก๊าซ บริการทางการเงิน และเทคโนโลยี อาจมีพัฒนาการของความสามารถในการทำกำไรอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจช่วยทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อธุรกิจนี้ยังอาจดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศที่มองหาประเทศที่เป็นมิตรต่อธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ความยั่งยืนในระยะยาวของผลประโยชน์เหล่านี้จะขึ้นอยู่กับว่าการลดกฎระเบียบจะนำไปสู่ผลกระทบด้านลบที่ไม่คาดคิดหรือไม่ เช่น ความเสี่ยงในด้านสิ่งแวดล้อมหรือระบบการเงิน

ความเสี่ยงด้านหนี้และเงินเฟ้อ

หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ยังคงเป็นความกังวลภายใต้การบริหารของทรัมป์ ข้อเสนอการลดภาษีและการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมอาจทำให้การขาดดุลทางการคลังเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยได้ นอกจากนี้ การขยายตัวทางการคลังและการเพิ่มแนวทางปกป้องเศรษฐกิจ เช่น การเก็บภาษีนำเข้าจากจีนและคู่ค้ารายอื่น อาจทำให้ต้นทุนสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น เมื่อเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น สิ่งนี้อาจลดกำลังซื้อและส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลลบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นยังอาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจชะลอโมเมนตัมของตลาดหุ้นและเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมได้

บทสรุป: มุมมองเชิงบวกท่ามกลางความไม่แน่นอน

ชัยชนะในการเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2024 ได้นำไปสู่การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐ และการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับการลดภาษี การลดกฎระเบียบ และนโยบายสนับสนุนธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการโฟกัสไปที่ความเป็นอิสระด้านพลังงาน เซ็กเตอร์สำคัญ เช่น พลังงาน เทคโนโลยี และการเงิน ถูกคาดว่าจะมีการเติบโตในระยะสั้น ในขณะที่ตลาดโลกต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากสงครามการค้า ภาษี และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

แม้จะมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดสหรัฐ ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น หนี้สาธารณะ และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาวยังคงมีอยู่ นักลงทุนควรรักษามุมมองเชิงบวกไว้ แต่ควรดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยสร้างสมดุลระหว่างโอกาสในตลาดระยะสั้นกับความเสี่ยงที่จะเกิดความผันผวนและความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโดยรวมdemo account thailand

ข่าวสารล่าสุด
เริ่มเทรดไปด้วยกันวันนี้!
ลองใช้บัญชีเงินสมมุติของเราฟรีเพื่อเรียนรู้การลงทุน เมื่อคุณพร้อมแล้ว ให้เปลี่ยนไปใช้บัญชีจริงและเริ่มเทรดจริง
ATFX

🌍 Welcome to ATFX!

To provide you with the best trading experience in Iraq, please visit our localized website:

There, you’ll find all products, services, and contact information tailored specifically for you. Thank you for choosing ATFX!

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website https://www.atfx.com/en-ae/ are not suitable
in your country. Such information and materials should not be regarded as or
constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments.
Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

使用限制

本网站的产品及服务不适合英国居民。网站内部的信息和素材不应被视为分销,要约,买入或卖出任何投资产品。请继续访问 https://www.atfx.com/en/

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not available for Hong Kong investors and not related to any corporation licensed by the Securities and Futures Commission in Hong Kong.

All the information and materials posted on this website should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, solicitation to buy or sell any investments.

使用限制:本網站的產品及服務不適用於香港投資者及與任何香港證監會持牌公司無關。

網站內部的信息和素材不應被視為分銷,要約,買入或賣出任何投資產品。

ATFX

Restrictions on Use

AT Global Markets (UK) Limited does not offer trading services to retail clients.
If you are a professional client, please visit https://www.atfxconnect.com/