นักลงทุนฟอเร็กซ์ใช้แท่งเทียนมาวิเคราะห์ตลาดได้อย่างไร

หากจะเข้าสู่ตลาดฟอเร็กซ์ สิ่งแรกที่นักลงทุนมือใหม่จะได้เริ่มศึกษาก่อนคือการวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยแท่งเทียน ก่อนอื่นเราขอบอกไว้ก่อนเลยว่าสิ่งที่ทำให้แท่งเทียนสามารถใช้กับตลาดการซื้อขายจริงในระยะสั้นหรือยาวได้นั้นไม่ใช่จำนวนการทดสอบในอดีต อัตราการชนะในประวัติการเทรดสูง หรืออัตราส่วนกำไรและขาดทุน แต่เป็นการผสมผสานการเทรดแท่งเทียนให้เข้ากับอารมณ์และปัจจัยพื้นฐานของตลาด ณ ขณะนั้นมากกว่า

นักลงทุนที่ต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่เก่งต้องเข้าใจการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดฟอเร็กซ์ที่ถูกต้อง การวิเคราะห์แนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนต้องใช้แท่งเทียนเป็นตัวสนับสนุน แท่งเทียนเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการซื้อขายสำหรับนักลงทุนบางคน แล้วจะใช้แท่งเทียนเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?

ก่อนอื่น เราต้องเชี่ยวชาญรูปแบบแท่งเทียนแต่ละประเภท และกฎการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศขั้นพื้นฐาน ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รูปแบบของแท่งเทียนจะมีความแตกต่างกันทุกวัน แต่การสังเกตอย่างใส่ใจสามารถทำให้เห็นความเหมือนกันของแท่งเทียนในบางรูปแบบและในบางจังหวะ 

หลังจากการสังเกตและสรุป ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุถึงความแตกต่างของรูปแบบแท่งเทียนเอาไว้หลายประการ เช่น ลักษณะของแท่งเทียนที่มักพบตามแนวรับแนวต้าน ลักษณะแท่งเทียนที่มักพบเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยตัดกัน และอื่นๆ แท่งเทียนเหล่านี้มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง นักลงทุนควรเรียนรู้และมีความเชี่ยวชาญกับการสังเกตพฤติกรรมทั่วไปเหล่านี้ พวกเขาควรรู้พื้นฐานของการวิเคราะห์เชิงลึกของกราฟแท่งเทียน เพื่อวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนที่มีความซับซ้อนได้ดีขึ้น

การวิเคราะห์แท่งเทียนแต่ละตัวอย่างลึกซึ้งและสาเหตุที่ส่งผลต่อการเกิดแท่งเทียนรูปแบบนั้นๆ เป็นสิ่งสำคัญ แท่งเทียนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศประกอบด้วยลักษณะต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อเทรนด์ถัดไป ในขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ก็ต้องเข้าใจลักษณะเฉพาะของแท่งเทียนแต่ละตัวด้วย แท่งเทียนทุกแท่งมีเหตุผลในตัวเอง และเทรดเดอร์จำเป็นต้องวิเคราะห์เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเหล่านั้นให้ออก เช่น เหตุใดจึงเกิดไส้เทียนยาวผิดปกติในบริเวณนี้? ทั้งๆ ที่มีแท่งเทียนกลับตัวแล้วแต่เหตุใดกราฟยังไปต่อในแนวโน้มเดิมได้? มีเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจใดเกิดขึ้นหรือไม่? หลังจากที่มีประสบการณ์แล้ว เทรดเดอร์จะได้เรียนรู้การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนของอัตราแลกเปลี่ยนในเชิงลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ

สิ่งที่นักลงทุนควรรู้ในลำดับถัดมาคือการเรียนรู้การใช้เครื่องมือการเทรดอื่นๆ ร่วมกับแท่งเทียน เทรดเดอร์ที่ทำธุรกรรมผ่านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศย่อมรู้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความผันผวนเหล่านี้แสดงถึงความหมายที่แตกต่างกัน ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังสามารถลากเส้นเทรนด์ไลน์ของตนเองสำหรับการวิเคราะห์แนวโน้ม ซึ่งจะช่วยให้สามารถเห็นแนวโน้มได้อย่างชัดเจนทันที แน่นอนว่ายังมีซอฟต์แวร์วิเคราะห์แบบมืออาชีพ ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถพิจารณาตามสถานการณ์จริงได้

วิธีดูการขึ้นลงของราคาผ่านแท่งเทียน

เชื่อหรือไม่ว่าหากมีความเชี่ยวชาญในการใช้แท่งเทียนจริงๆ จะพบว่าแท่งเทียนเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ดีที่สุด ถึงกระนั้น นักลงทุนแต่ละคนจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเมื่อมองไปที่แท่งเทียน ดังนั้นจึงมีวิธีการซื้อขายที่แตกต่างกัน มีการวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันจึงเกิดขึ้นมากมาย ส่งผลให้เกิดผู้ที่ได้กำไรและขาดทุนในเวลาเดียวกัน ในบทความนี้เราได้หยิบสี่เคล็ดลับที่จะช่วยให้พิจารณาราคาแท่งเทียนได้ง่ายขึ้น

1. ให้เปรียบการขึ้นลงของราคาเป็นแสงและเงา

การเรียงตัวต่อกันของแท่งเทียนในแต่ละสี สามารถพัฒนาการเป็นสิ่งที่เรียกว่าเทรนด์ได้ โดยส่วนใหญ่ นักลงทุนจะใช้สีเขียวเป็นตัวแทนของฝั่งขาขึ้น และใช้แท่งเทียนสีแดงเป็นตัวแทนของฝั่งขาลง ในบางครั้งเราอาจจะได้ยินได้ฟังคำพูดหรือการวิเคราะห์จากกูรูที่บอกว่าตลาดกำลังจะวิ่งไปใดทิศทางหนึ่ง หากเรามีความรู้ และสามารถวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยแท่งเทียนได้แล้ว การพิจารณาราคาร่วมกับแนวรับแนวต้าน หรือเส้นเทรนด์ไลน์ที่เราลากออกมาจากความรู้ของเราเองอาจจะทำให้เห็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นได้ชัดเจนมากกว่าการฟังจากคำพูดของคนอื่น

2. จุดเปิดและจุดปิดของแท่งเทียนใครว่าไม่สำคัญ

ส่วนประกอบหนึ่งของแท่งเทียนคือจุดเปิดและจุดปิดของแท่ง หากมองผ่านๆ ส่วนประกอบเหล่านี้อาจไม่ได้มีความสำคัญอะไร แต่จริงๆ แล้วมันมีความแตกต่างระหว่างราคาปิดและราคาเปิดอยู่ ยิ่งความแตกต่างมากเท่าไหร่ (หมายถึงยิ่งจุดเปิดและปิดห่างกันมากันมากเท่าไหร่) ก็ยิ่งมีความสำคัญเท่านั้น ดังนั้น หากจะเลือกแท่งเทียนที่มีความน่าเชื่อถือ ควรเลือกแท่งเทียนที่ลำตัวแท่งมีขนาดใหญ่ ความน่าจะเป็นของการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จจะสูงขึ้นเมื่ออ้างอิงจากแท่งเทียนขนาดใหญ่ กลยุทธ์นี้ยังช่วยให้เทรดเดอร์เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงในการเทรดได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

3. ไส้ของแท่งเทียนบอกอะไรได้มากกว่าที่คิด

ตามทฤษฎีแล้ว แท่งเทียนมีส่วนประกอบสำคัญอยู่สองส่วน ส่วนแรกคือส่วนที่ได้กล่าวถึงไปในหัวข้อที่สองแล้วคือลำตัวของแท่งเทียน (Body) และอีกส่วนหนึ่งคือไส้เทียน (Shadow) บางคนเรียกส่วนนี้ว่าไส้เทียน บางคนเรียกส่วนนี้ว่าเงาของแท่งเทียน แต่หัวใจสำคัญของส่วนนี้คือบอกถึงตำแหน่งราคาที่แท่งเทียนเคยวิ่งมาในอดีต

ไส้เทียนหมายถึงจุดต่ำสุดสูงสุดของแท่งเทียน หรือความแตกต่างระหว่างราคาต่ำสุดกับราคาปิด ตัวอย่างเช่น ไส้เทียนด้านบนคือส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดและราคาปิด ยิ่งช่องว่างระหว่างจุดสูงสุดและราคาปิดแคบ หมายความว่าขาขึ้นกำลังอ่อนกำลัง แท่งเทียนในลักษณะนี้เปิดโอกาสให้การวางคำสั่งขายมีความได้เปรียบมากกว่า ส่วนไส้เทียนด้านล่างหมายถึงส่วนต่างของราคาระหว่างราคาต่ำสุดของแท่งเทียนกับราคาปิด ยิ่งไส้เทียนด้านล่างลากยาวมากเท่าไหร่ แสดงว่าแรงส่งขาลงถูกต่อต้านมาก และการโต้กลับขึ้นมาของฝั่งขาขึ้นมีความรุนแรง ดังนั้น หากเห็นแท่งเทียนที่มีไส้เทียนยาวเกิดขึ้นฝั่งใด มีความเป็นไปได้ว่ากำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ขึ้นในไม่ช้า

จากบทความนี้จะเห็นได้ว่า เพียงมีความรู้เรื่องแท่งเทียน ก็สามารถตัดสินการขึ้นลงของราคาได้เลย อาจกล่าวได้ว่าเรียบง่ายและแยบยล แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่บ้าง ไม่มีทางที่จะถูกต้อง 100% ดังนั้นก่อนลงทุน เทรดเดอร์ต้องวิเคราะห์เทรนด์ออกได้อย่างชัดเจน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการจะรับความเสี่ยงกับแท่งเทียนนั้นๆ เช่นการวางจุดทำกำไร การวางจุดตัดขาดทุน ที่สำคัญ อย่าลืมให้ความสนใจกับแนวโน้มขาขึ้นของตลาดต่างประเทศด้วย หากตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก คุณต้องสร้างกลยุทธ์ใหม่ที่สามารถสู้กับตลาดได้อย่างทันท่วงที

ดาวน์โหลดบัญชี MT4 หรือทดลองเทรดในบัญชีเงินสมมุติเพื่อเริ่มต้นเส้นทางการลงทุนได้เลย!