กราฟ SPX500 รายวัน
ดัชนี SPX500 ร่วงลงต่ำกว่าแนวรับล่าสุด และอาจปรับตัวลดลงต่อไปที่ระดับ 5,389 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเดือนกันยายน 2024
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยแผนเก็บภาษีศุลกากรหรือที่เรียกว่า “วันปลดแอกอเมริกา” เมื่อคืนที่ผ่านมา ทรัมป์ระบุว่างานและโรงงานต่างๆ ในอเมริกาจะ “กลับมาคึกคักอีกครั้ง”
“วันที่ 2 เมษายน 2025 จะถูกจดจำตลอดกาลไปว่าเป็นวันที่อุตสาหกรรมของอเมริกาได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง เป็นวันที่ชีวิตของคนในอเมริกาถูกทวงคืน และเป็นวันที่เราเริ่มทำให้ประเทศอเมริกากลับมามั่งคั่งอีกครั้ง” ทรัมป์กล่าว
“เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ประเทศของเราถูกปล้นโดยประเทศต่างๆ ทั้งใกล้และไกล ทั้งมิตรและศัตรู คนงานเหล็กชาวอเมริกัน คนงานอุตสาหกรรมยานยนต์ เกษตรกร และช่างฝีมือ – เรามีคนเหล่านี้จำนวนมากอยู่ที่นี่กับเราในวันนี้ พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานอย่างหนักจริงๆ” “ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ผมจะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับประวัติศาสตร์ ซึ่งจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรแบบตอบโต้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก เป็นการตอบแทน นั่นหมายความว่าพวกเขาทำกับเรา ดังนั้น เราก็ทำกับพวกเขา ง่ายมาก ไม่มีอะไรจะง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว”
ทรัมป์กล่าวว่าภาษีศุลกากรตอบโต้จะทำให้เกิด “การแข่งขันรุนแรงขึ้นและราคาสำหรับผู้บริโภคในอเมริกาลดลง”
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศอัตราภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับทุกประเทศ (ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 15% และกรณีที่เลวร้ายที่สุด 20%) เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน เขายังยืนยันอัตราภาษี 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์ทั้งหมดอีกด้วย
ประเทศในเอเชียที่อยู่ในรายชื่อนี้ ได้แก่ จีน ไทย เวียดนาม และไต้หวัน
“หากคุณต้องการอัตราภาษีเป็นศูนย์ คุณต้องผลิตสินค้าของคุณที่นี่ ในอเมริกา เพราะจะไม่มีภาษีหากคุณผลิตสินค้าของคุณในอเมริกา” ทรัมป์กล่าว
“เช่นเดียวกับประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี กษัตริย์ ราชินี เอกอัครราชทูต และบุคคลอื่นๆ ที่จะโทรมาขอเจรจายกเว้นภาษีเหล่านี้ในเร็วๆ นี้ ผมขอแนะนำให้คุณยกเลิกภาษีของคุณเองที่มีกับอเมริกา ทำลายอุปสรรคของคุณ และอย่าบิดเบือนสกุลเงินของคุณ”
ตลาดหุ้นร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนจับตาดูผลกระทบจากความผันผวนของการค้าโลก Adam Hetts หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์หลายประเภทระดับโลกของ Janus Henderson ให้ความเห็นว่า:
“ภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บในแต่ละประเทศในอัตราที่สูงลิ่วนั้นถือเป็น ‘กลยุทธ์การเจรจา’ ซึ่งจะทำให้ตลาดจะยังคงตึงเครียดต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้”