ในที่สุดวันตัดสินชะตาของนักลงทุนในสัปดาห์นี้ก็มาถึง จะรุ่งหรือร่วงก็ขึ้นอยู่กับการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ท่ามกลางการมุ่งหน้าขึ้นสู่ระดับราคา 4000 จุดของดัชนี SPX500
กราฟรายวัน
Gurmit Kapoor เทรดเดอร์ของ BGC จาก Aurel ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าความเสี่ยงจากเหตุการณ์ CPI ในวันนี้ “อาจเป็นตัวตัดสินว่าดัชนี S&P 500 จะสามารถขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ที่ระดับราคา 4,000 โดยประมาณและเส้นแนวโน้มขาลงได้หรือไม่ หรือราคาจะวิ่งกลับลงไปที่ 3,800 จุด ”
อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาชะลอตัวลง นักวิเคราะห์คาดว่าจะเป็นเช่นนั้นต่อไ
ป ครั้งนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลข CPI จะออกมาอยู่ที่ 5.7% ปรับตัวลดลงจาก 6% ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปนั้นนักวิเคราะห์มองว่าจะขยับลงเป็น 6.5% จาก 7.1% อย่างไรก็ตาม บางคนกลับไม่มั่นใจและกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่เป็นตัวชี้วัดเฉพาะ
การวิเคราะห์จากธนาคารชื่อดังอย่างเจพี มอร์แกนคาดการณ์ว่า 85% ของหุ้นจะขยับสูงขึ้นอย่างน้อย 1.5% หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่า 6.6% พวกเขายังเห็นว่ามีความเป็นไปได้ 15% ที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลงต่ำกว่า 2.5-3% หากตัวเลขเงินเฟ้อนั้นออกมาสูงกว่า 6.6%
Charlie McElligott จาก Nomura กล่าวว่าตัวเลข CPI “เป็นเรื่องใหญ่กว่าที่ตลาดให้ค่าอยู่แล้ว” ตลาดออปชั่นกำลังร้อนแรง และการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อาจเกิดขึ้นหลังจากรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนีราคาผู้บริโภคจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตลาดลงทุน ตัวเลขที่ลดลงจะหมายความว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังได้ผล และมีโอกาสจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคมคาดว่าจะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินแล
ะพลังงานที่ลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ตัวเลขรายปีน่าจะยังคงสูงอยู่
“เราพร้อมอ้าแขนต้อนรับตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลง นั่นถือว่าเป็นข่าวดี ที่ผ่านมาแม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลงนั้นยอดเยี่ยมและช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคในไตรมาสที่สี่… แต่ก็ยังไม่เพียงพอ” – Diane Swonk หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ KPMG กล่าว
การประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI นั้นเกิดขึ้นก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และอาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของตลาดลงทุน