ราคาของโลหะมีค่าอย่างโลหะเงินกำลังได้รับแรงกดดันเมื่อภาพเงินเฟ้อทั่วโลกกำลังชะลอตัว
กราฟ XAGUSD รายวัน
ราคาโลหะเงินปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือ 25 ดอลลาร์ แต่กลับร่วงลงมาต่ำกว่า 24 ดอลลาร์
ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเพราะการจ้างงานชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มขาขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ โลหะเงินมีค่าถูกมองว่าเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น ต้องเลขการจ้างงานที่อ่อนลงนั่นจะทำให้อุปสงค์ลดลงด้วย
ในการคาดการณ์ราคาใหม่ Kieran Tompkins นักเศรษฐศาสตร์ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จาก Capital Economics เตือนนักลงทุนว่าโลหะเงินอาจทรงตัวในช่วงที่เหลือของปี ราคาโลหะเงินอาจลดลงเหลือ 22.50 ดอลลาร์ เขากล่าว
Tompkins กล่าวว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อราคาโลหะเงินคือดอลลาร์สหรัฐ บริษัทวิจัยในอังกฤษคาดว่า USD จะยังคงแข็งค่าขึ้นต่อไป
“โดยสรุป เราคิดว่ายังมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะขยายตัวมากขึ้น เหตุการณ์นั้นจะยิ่งเพิ่มโอกาสการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยส่งผลกระทบต่อราคาโลหะเงิน” เขาเขียน
Thompkins กล่าวเสริมว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ความต้องการเครื่องประดับที่ทำจากโลหะเงินลดลง การขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลงก็จะส่งผลกระทบต่อความต้องการโลหะมีค่าเช่นกัน แนวโน้มทั่วโลกยังชี้ให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจะเป็นอันตรายต่อตลาดความต้องการอุตสาหกรรมโลหะเงิน
“ดัชนี PMI อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกชี้ให้เห็นว่ามีการถดถอยครั้งใหม่ในอุตสาหกรรมอิเล็กฯ ” เขากล่าว “จากการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เราคาดการณ์ไว้ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เราเชื่อว่ากิจกรรมในภาคอิเล็กทรอนิกส์จะยังคงลดลงต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเลยจากปีปัจจุบันไปแล้ว Thompkins คาดว่าสถานการณ์ของโลหะเงินจะดีขึ้นในปี 2024 เขาคาดว่าราคาโลหะเงินในปีหน้าจะสิ้นสุดที่ประมาณ 25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เหตุผลก็คือ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของสหรัฐฯ แต่สำหรับปีนี้ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงดำเนินต่อไป (ซึ่งที่ผ่านมาซบเซามาตลอดปี 2023) และจะทำให้ความต้องการลงทุนในโลหะเงินเพิ่มขึ้น