หากพิจารณาจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ดูเหมือนว่าฝั่งสหรัฐฯ จะไม่ค่อยมีรายงานตัวเลขที่น่าสนใจแล้ว แต่ในช่วงเวลาที่มีการรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนด้วยนั้น สัปดาห์นี้ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะมีการรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีด้วย ยกตัวอย่างเช่นการรายงานผลประกอบการแบบปีงบประมาณในไตรมาสที่ 1 ปี 2023 ของบริษัทไมโครซอฟต์ ที่ราคาหุ้นพึ่งลงไปทำสร้างจุดต่ำสุดของราคาไปเมื่อไม่นานมานี้ และดูเหมือนว่าราคากำลังจะดีดตัวกลับขึ้นมา
กราฟหุ้นไมโครซอฟต์รายวัน
ราคาหุ้น MSFT อยู่เหนือระดับราคาสำคัฯ $240 โดยมีระดับราคา $250 เป็นแนวต้านและแนวสำหรับที่จะส่งราคากลับลงไปที่ $260 หากหุ้นไมโครซอฟต์สามารถผ่านระดับแนวต้านเหล่านี้ได้ เป้าหมายต่อไปของราคาคือ $280
ปัญหาหนึ่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในปีนี้คือค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลให้รายรับของบริษัทลดลงเพราะอัตราแลกเปลี่ยนในต่างสกุลเงินต่างประเทศนั้นถูกด้อยค่าลง ไมโครซอฟต์มีรายได้จากซอฟต์แวร์ที่โดดเด่นที่สุดในโลก แต่นักวิเคราะห์คาดว่าการเติบโตของบริษัทจะชะลอตัวลง ไมโครซอฟต์มีแนวโน้มที่จะทำกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 1.3% YoY ในขณะที่รายรับเพิ่มขึ้น 9.3% คิดเป็นเกือบ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปัญหาอีกอย่างสำหรับไมโครซอฟต์คือยอดขายคอมพิวเตอร์ PC ที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โควิดทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไป จากโพลผลสำรวจของบริษัทพบว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นสำหรับคนทำงานที่บ้านแลคนที่ทำงานทั้งจากที่บ้านและออฟฟิศควบคู่กัน แต่ตอนนี้ผู้คนกำลังกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และต้องกลับเข้าไปทำงานที่สำนักงานอีกครั้ง
งานบริการจากระบบคลาวด์คือสิ่งที่ทำให้ไมโครซอฟต์เห็นความแข็งแกร่งในไตรมาสล่าสุด ซึ่งรวมถึงแพลตฟอร์มอย่างอาชัวร์ (Azure) ด้วย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคาดว่าการเติบโตของระบบคลาวด์จะชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากการว่างงานและการลงทุนที่ลดลงเพราะปัญหาเงินเฟ้อ
การเติบโตของธุรกิจคลาวด์ในสัปดาห์นี้อาจมีความสำคัญต่อตลาดหุ้น เนื่องจากการชะลอตัวที่ได้กล่าวถึงไป นักลงทุนจะใช้ข้อมูลการเติบโตของระบบคลาวด์ในไมโครซอฟต์ไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งอื่นเช่น Amazon Web Services และ Google Cloud ของบริษัทอัลฟาเบต
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของไมโครซอฟต์คลาวด์ยังคงสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนได้ หากอ้างอิงจากผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ที่นับจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนซึ่งมีผลออกมาเติบโตดีขึ้น
“ในสภาพแวดล้อมที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราเห็นความต้องการระบบคลาวด์ที่มีเข้ามามากขึ้น นั่นคือสิ่งที่เพิ่มความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาแพลตฟอร์มคลาวด์ของเรา การจองใช้พื่นที่คลาวด์เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 25% และรายรับจาก Microsoft Cloud มีตัวเลขอยู่ที่ 2,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบเป็นรายปี เมื่อเราเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสมดุลระหว่างวินัยในการปฏิบัติงานด้วยการลงทุนในด้านกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต” บริษัทไมโครซอฟต์กล่าว