ดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกงฮั่งเส็งได้กลับลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่เคยสร้างเอาไว้ตั้งแต่ปี 2016
กราฟ HK50 รายสัปดาห์
ราคาดัชนี HK50 ไม่สามารถขึ้นไปเหนือแนวต้าน 22,500 ได้ และตอนนี้ นักลงทุนกำลังรอเข้าซื้อที่ระดับราคา 18235
ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงอ่อนแอ ประเด็นดราม่าเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ยังคงเป็นสิ่งฉุดตลาดให้ปรับตัวลง การผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ แม้ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็ยังจะส่งผลกระทบต่อตลาดลงทุนต่างประเทศได้ทั้งหมด นักการเมืองในแต่ละประเทศต้องหาทางพาประเทศของตนผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าที่คาด ซึ่งก็ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดโลกเช่นกัน ตัวเลขภาคการผลิตของเศรษฐกิจจีนในสัปดาห์นี้ไม่แข็งแกร่งอย่างที่คาดการณ์ไว้และยังคงอยู่ในโซนหดตัว
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลง 1.94% ในวันพุธ มีการทำราคาปิดที่ระดับแนวรับสำคัญ บทสรุปของละครเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ช่วยให้ราคาหุ้นปรับตัวกลับขึ้นมาได้
หุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกงก็ประสบปัญหาเช่นกัน และใกล้เข้าสู่ภาวะตลาดขาลง ดัชนี Hang Seng China Enterprises ปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ ขาดทุนมาตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมมากถึง 20%
Marvin Chen จาก Bloomberg Intelligence กล่าวว่า “การฟื้นตัวภายในประเทศของจีนนั้นไม่แข็งแกร่งอย่างที่คาดไว้ และยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยความกังวลต่อการชะลอตัวทั่วโลก” “นักลงทุนในตลาดอาจเหนื่อยล้ากับการรอคอยปัจจัยอื่นๆ ที่มาเร่งปฏิกิริยา เช่น การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินหรือสถานการณ์เพดานหนี้คลี่คลาย พวกเขากำลังมองหาการเติบโตในตลาดอื่นๆ”
ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจระบุว่าการเติบโตของจีดีพีในปีนี้จะใกล้เคียงกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ประมาณ 5% แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีความหวังกับผลการดำเนินงานของบริษัทเอกชนที่แข็งแกร่งก็ตาม ตลาดหุ้นจีนก็สูญเสียความนิยมในต่างประเทศเช่นกัน ธนาคารซิตี้กรุ๊ปได้ลดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือในจีนลงมาเป็นระดับกลางเมื่อวันศุกร์ Christopher Wood นักยุทธศาสตร์ของ Jefferies ยังลดการถือครองหุ้นจีนจำนวนมากในตลาดเป็นครั้งที่สองในรอบสองสัปดาห์
ด้วยสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของหุ้นจีน ณ ตอนนี้ อาจสามารถพิจารณาได้ว่าเป็นโอกาสสำหรับการปรับตัวขึ้นทางเทคนิค ข้อตกลงเพดานหนี้ของสหรัฐฯ หากคลี่คลายแล้วอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนเทรนด์ได้