คู่กราฟ EURUSD ได้รับแรงหนุนจากการแสดงความคิดเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ที่มีต่อตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
กราฟ EURUSD รายวัน
อัตราแลกเปลี่ยน EUR/USD ปรับตัวขึ้นที่ 1.06 ในวันถัดมาหลังจากทดสอบแนวรับเดือนมีนาคมที่ 1.054 ในวันก่อนหน้า เงินยูโรจะต้องผ่านระดับแนวต้าน 1.065 เพื่อให้การขึ้นสามารถเดินหน้าต่อไปได้
ประธานธนาคารสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ให้ความเห็นว่าเขาพอใจกับอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในช่วงฤดูร้อนนี้ และธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เว้นแต่จะเห็นหลักฐานทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นนั้นถือเป็นภัยคุกคาม
“เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนและความเสี่ยง เรามาไกลแค่ไหนแล้ว คณะกรรมการกำลังทำงานอย่างระมัดระวัง” พาวเวลล์กล่าว “ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เข้ามาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องต่อทั้งสองอย่าง” เป้าหมายของเฟดคือการมีราคาที่มั่นคงและการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
คำพูดของพาวเวลล์ยังกล่าวถึงเพื่อนร่วมงานของเฟดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พาวเวลล์กล่าวว่าคณะกรรมการฯ เตรียมที่จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้คงที่ในการประชุมครั้งถัดไปซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน ผู้กำหนดนโยบายของเฟดกล่าวว่าราคาพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้ได้มาทำหน้าที่แทนเฟด
“เรายังคงใส่ใจต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ เพราะจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทางการเงินอย่างต่อเนื่อง และอาจมีผลกระทบต่อแนวทางนโยบายการเงิน” พาวเวลล์กล่าว
การตัดสินใจว่าจะขึ้นอัตราอีกครั้งหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับ “ภาพรวมของข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เข้ามา แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และความสมดุลของความเสี่ยง” เขากล่าวเสริม
แม้จะมีความเห็นของพาวเวลล์ แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีก็แตะระดับสูงสุดในปี 2023 และยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007 “ นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ดังเดิมในการประชุมครั้งถัดไป และจะวิเคราะห์ถ้อยแถลงของพาวเวลล์เพื่อยืนยันว่าคาดคิดของพวกเขานั้นถูกต้อง” ไนเจล กรีน นักวิเคราะห์จาก deVere Group ณ กรุงลอนดอน กล่าว
“แต่เราคาดว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางล่าสุดและผลกระทบต่อตลาดน้ำมันจะทำให้ประธานเฟดระมัดระวังมากกว่าที่หลายคนคาดไว้” เขากล่าวเสริม
ตลาดกำลังเก็งว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยคงในการประชุมเดือนพฤศจิกายนนี้หรือไม่ ตอนนี้ โอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมอยู่ที่ประมาณ 35% อย่างไรก็ตาม เหมือนจะมีโอกาสมากถึง 50% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมกราคม