ราคาบิทคอยน์ต้องกลับมารับแรงกดดันจากฝั่งขาลงอีกครั้ง เมื่อราคาสามารถลงไปทดสอบจุดต่ำสุดของเดือนกรกฎาคมที่ $19,000 ได้สำเร็จ
กราฟ BTC/USD รายวัน
การปรับตัวขึ้นของบิทคอยน์ที่เคยไปถึง 25,000 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมได้จบลงแล้ว เมื่อราคากลับมาเป็นขาลง ด้วยการแตะที่ระดับต่ำสุดของต้นเดือนกรกฎาคมอีกครั้ง บิทคอยน์กำลังวิ่งตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงเช่นกันในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยังคงสร้างแรงกดดันให้กับสินทรัพย์เสี่ยง
ในวันพุธที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาเดินหน้าขึ้นอัตรา 75bps และธนาคารกลางยุโรปก็จะมีการประชุมอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน
การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหล่านี้ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตร น่าสนใจยิ่งขึ้น ตรงข้ามกับสิงทรัพย์เสี่ยงอย่างบิทคอยน์ที่ยังได้รับความเดือดร้อนต่อไป ในขณะที่อีเทอเรียมได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงระบบเชิงโครงสร้างครั้งใหญ่
ตลาดคริปโตเคอเรนซีกำลังถูกลากลงโดยความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ DXY สามารถแตะระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีได้เมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินรูปีของอินเดีย นั่นทำให้ตลาดหุ้นตกต่ำ และความพยายามทำนโยบายการเงินให้ตึงตัวของธนาคารกลางหมายความว่ามีพวกเขาปิดก๊อกน้ำแล้ว ทำให้ไม่มีสภาพคล่องไปลงทุนในตลาดหุ้นอีก และเป้นสาเหตุว่าทำไมตลาดคริปโตฯ ถึงได้ร่วงลงอย่างหนักอีกด้วย
ในขณะนี้ การเทรดสวนเทรนด์อาจเป็นอันตรายเหมือนกับการพยายามจับมีดที่กำลังตกลงมา และนักลงทุน บิทคอยน์ก็ควรทำใจยอมรับในแนวโน้มขาลงปัจจุบันว่ายังไม่ถึงจุดต่ำสุด การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB เพียงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดีอาจช่วย BTC ปรับตัวขึ้นได้ แต่ก็จะช่วยเพิ่มค่าเงินดอลลาร์ด้วยเช่นกัน การประชุม ECB ในวันนี้และถ้อยแถลงจากประธานธนาคารกลางฯ จะมีความสำคัญต่อตลาดคริปโตฯ
ตามการวิจัยของ Arcane Research ระบุว่าความกังวลในแนวโน้มขาลงของ BTC อาจลดลง เมื่อดูจากตัวเลขสัญญาคงค้างของสัญญาฟิวเจอร์สขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 565,579 BTC (10.6 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งสูงกว่าจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ 548,096 BTC หากจำนวนสัญญานี้ปรับตัวลดลง เราอาจได้เห็นการปรับตัวลดลงต่อของตลาดสกุลเงินดิจิทัล