จากปริมาณการซื้อขายในตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่ยังคงไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้ความผันผวนในราคาบิทคอยน์ของแต่ละวันมีค่อนข้างต่ำ และราคาสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวยังคงไซด์เวย์อยู่ในกรอบราคาแคบๆ ให้เห็น
กราฟ BTCUSD รายวัน
ราคาของ BTC เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 26,000 ถึง 28,000 ดอลลาร์ ซึ่งอาจมีการทะลุกรอบไซด์เวย์แคบๆ นี้ขึ้นไปได้ทุกเมื่อ
บิทคอยน์ในตอนนี้ขาดแรงหนุนขาขึ้น นักลงทุนบางคนกลัวว่าเหรียญดิจิทัลดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบจากข้อตกลงเพดานหนี้ของสหรัฐฯ
สหรัฐมีเพดานหนี้จำกัดที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม ซึ่งอาจทำให้กระทรวงการคลังต้องดำเนินมาตรการบางอย่างเพื่อให้รัฐบาลทำงานต่อไปได้ นั่นหมายถึงสินทรัพย์อย่างเช่นบิทคอยน์อาจต้องอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไปเนื่องจากความกังวลด้านการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลและสภาพคล่องที่ลดลง
ยอดเงินในบัญชีเงินฝากของกระทรวงการคลัง (Treasury General Account) ลดลงจาก 500,000 ล้านดอลลาร์เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์เป็น 68,000 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว ตามข้อมูลของ MacroMicro ตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะลดลงเหลือ 30,000 ล้านดอลลาร์ในต้นเดือนมิถุนายน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้ให้ได้ก่อนหน้านั้น
หากบรรลุข้อตกลงได้ กระทรวงการคลังจะต้องสร้างยอดเงินสดคงเหลือใหม่โดยออกพันธบัตรรัฐบาลใหม่ นั่นอาจทำให้สภาพคล่องมีมากขึ้น และเพิ่มอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
คาดการณ์ราคาบิทคอยน์
บิทคอยน์มีความอ่อนไหวต่อการแกว่งตัวของเงินดอลลาร์ และข้อตกลงเพดานหนี้อาจนำไปสู่การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ เพราะนักลงทุนต่างชาติจะกลับมาถือเงินดอลลาร์โดยไม่ต้องกลัวว่าจะผิดนัดชำระหนี้
เจมส์ บลูราร์ด (James Bullard) ประธานธนาคารกลางแห่งสาขา St. Louis ช่วยให้บิทคอยน์ปรับตัวขึ้น เพราะเขาคาดการณ์ว่าจะต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกไม่ต่ำกว่าสองครั้งในปีนี้
“ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีนี้ การดำเนินการเหล่านั้นจะพาดอกเบี้ยขึ้นไปถึงเท่าไหร่ในปีนี้? ผมไม่รู้ แต่ผมจะสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย ‘ให้ขึ้นเร็วที่สุด’” เจมส์ บลูราร์ดกล่าวระหว่างการประชุมในเท็กซัส