เมื่อไม่นานมานี้ หุ้นแอลเปิล (AAPL) เหมือนว่าจะได้เจอแนวรับที่แข็งแกร่ง และอาจปรับตัวสูงขึ้นต่อแม้ว่าจะยังมีปัจจัยกดดันจากทั่วโลก
กราฟ AAPL รายสัปดาห์
หุ้น AAPL ได้รับแรงหนุนอย่างแข็งแกร่งที่ระดับ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีโอกาสชัดเจนที่จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 248.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากความเชื่อมั่นของตลาดยังคงเป็นไปในทางขาขึ้น
นักวิเคราะห์กังวลเกี่ยวกับความสามารถของ Apple ในการเติบโต ในขณะที่เศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน ความเชื่อมั่นเชิงลบนี้ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของ Apple ในปีนี้ ราคาหุ้นลดลง 15.7% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งต่ำกว่าดัชนี Nasdaq 100 ที่เพิ่มขึ้น 6.5%
ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ยอมรับว่า แม้ว่าภาษีศุลกากรจะมี “ผลกระทบไม่มาก” ในไตรมาสเดือนมีนาคม แต่คาดการณ์ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้น 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสเดือนมิถุนายน ซึ่งจะเป็นประเด็นสำคัญที่นำไปสู่ช่วงเวลาประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2
ในตลาดผู้บริโภคจีน ธุรกิจของ Apple กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแนวโน้มที่จะเอื้อประโยชน์ต่อแบรนด์ในประเทศ ข้อจำกัดของรัฐบาลเกี่ยวกับการใช้งาน iPhone โดยเจ้าหน้าที่รัฐเป็นอีกหนึ่งปัจจัยฉุดรั้ง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนมีรายได้คิดเป็นเกือบ 20% ของ Apple แม้แต่การหยุดชะงักเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลกำไรสุทธิ ถึงจะเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ มากมาย แต่ Apple ก็ยังมีรายได้ 9.54 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทยังสร้างสถิติยอดขายใหม่ในตลาดสำคัญๆ อีกด้วย ได้แก่ สหราชอาณาจักร อินเดีย บราซิล และฟิลิปปินส์
นักวิเคราะห์กังวลเกี่ยวกับการที่บริษัทพึ่งพาการผลิตจากจีน แต่ทิม คุกระบุว่า iPhone ส่วนใหญ่ที่ขายในสหรัฐอเมริกาในไตรมาสนี้ผลิตในอินเดีย ปัจจุบันเวียดนามผลิต iPad, Mac, นาฬิกา และ AirPods ส่วนใหญ่สำหรับผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา
บริษัทยังขยายธุรกิจในอินเดียเพิ่มเติมด้วยแผนการสร้างร้านค้าปลีกและสถานที่ประกอบ iPhone แห่งใหม่
ราคาหุ้นมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นหากสามารถยืนเหนือระดับ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ และจะให้ความสำคัญไปที่ผลประกอบการไตรมาส 2 ที่จะประกาศในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า