ในตลาดลงทุนเอเชียวันพุธ ราคาน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 63.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาปรับตัวสูงขึ้นเพราะความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ลดลง ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐฯ และจีนตกลงที่จะลดภาษีนำเข้าอย่างมีนัยสำคัญ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ตกลงที่จะลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติม รวมถึงภาษีที่เคยมีผลบังคับใช้ไปในเดือนเมษายนปีนี้จาก 145% เหลือ 30% และในทางกลับกัน จีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ จาก 125% เหลือ 10% อัตราภาษีที่ลดลงนี้จะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 90 วัน การลดภาษีชั่วคราวระหว่างผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุด 2 รายของโลกนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) พุ่งสูงขึ้นในระยะสั้น
รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของ API เผยให้เห็นว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.287 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่นับถึงวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งตรงข้ามกับปริมาณที่ลดลง 4.49 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า และตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
คาดว่ากลุ่ม OPEC+ จะเพิ่มการส่งออกน้ำมันในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ซึ่งอาจจำกัดขาขึ้นของราคาน้ำมันได้ ตั้งแต่เดือนเมษายน การผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคม